จากกรณีพล.ต.ต.สรุเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สน.หลักสอง เจ้าหน้าที่หน้ากองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่สคบ.นำหมายค้น หมายศาลอาญาธนบุรี เลขที่ ค174/60 ลงวันที่ 22 ส.ค.2560 เข้าตรวจค้นในการสอบสวนเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน ที่คาร์พาร์คภายในศูนย์รวมรถยนต์พีจี ถนนกาญจนภิเษก แขวง-เขต บางแค พร้อมสอบปากคำน.ส.ทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ อายุ 38 ปี เจ้าของเต็นท์ และยึดรถ 83 คันมาตรวจสอบ โดยพบรถที่เข้าข่ายกระทำความผิด 23 คัน มีรถที่ไม่ชำระภาษี 18 คัน และรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีอีก 5 คัน และยังพบรถ 1 คัน ใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 60 ราย และดำเนินการกับน.ส.ทัศนีย์ได้แล้ว 7 ข้อหา ทั้งตามหมายจับตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และตามพ.ร.บ.ค้าของเก่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ตำรวจ 191 บุกค้นเต็นท์รถดังย่านกาญจนาภิเษก หลังโดนร้องเรียนปัญหาเพียบ
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ส.ค. ที่สน.หลักสอง พล.ต.ต.สรุเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
พล.ต.ต.สรุเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากจับตัวน.ส.ทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ เจ้าของเต็นท์รถคาร์พาร์ค ถนนกาญจนาภิเษก มาได้และสอบสวนขยายผล กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายปานเดชา หรือเอ็ม รชตะวารีกุล อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.513/2560 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2560 และนายพาทิศ ฮะกีมี อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่จ.516 /2560 ลงวันที่ 23 สิงหาคม โดยกล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังจากเจ้าที่จับกุมตัวน.สทัศนีย์ มาขยายผลพบว่าบุคคลทั้ง 2 มีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง ตามที่ผู้เสียหายร้องทุกข์จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ผบก.สปพ. กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายแล้ว 17 ราย และกำลังทยอยเดินทางมาอีก คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ราย และจะตรวจสอบเต็นท์รถอื่นๆอีกด้วย เมื่อผู้เสียหายซื้อไปแล้วมีปัญหา จากการโฆษณาของเต็นท์รถดังกล่าว ที่ผิดไปตามที่โฆษณาเอาไว้ ถือเป็นการฉ้อโกง เหมือนกับการหากินอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน และรูปแบบแตกต่างกัน 17 คนก็ 17 คดี และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เต็นท์รถส่วนมากไม่มีใบอนุญาตค้าของเก่า ซึ่งรถทั้งหมดที่ยึดมาได้ครั้งนี้ บางส่วนจะนำไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานว่ามีการดัดแปลง หรือมีการแจ้งหายไว้หรือไม่ และจะแจ้งดำเนินคดีอีกในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร จากนี้ต่อไปจะตรวจสอบทุกเต็นท์รถในนครบาลและที่อื่นๆ เพราะพวกนี้ทำเป็นขบวนการ น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งรับจำนำรถ แก๊งลักรถ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจสามารถตรวจยึดและเอาไปตรวจสอบแล้วกว่า 370 คัน ซึ่งเราจะประสานงานกับ ปปง. เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิด ที่ถือเป็นการฉ้อโกงประชาชน
