ที่แท้เป็นเด็ก 19 อ้างเป็นแอดมินกลุ่มขายของแบรนด์เนม ตุ๋นสาวโอนเงินครึ่งล้าน เจ้าตัวรับสิ้นออกอุบายแยบยล พบก่อเหตุมาแล้ว 7 พื้นที่ในเขตนครบาล

จากกรณีที่ น.ส.ณัฐชมนต์ ธิติมงคลไพศาล เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ศปอส.ตร เพื่อให้ดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกง กับผู้ต้องหา บุคคลที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่กดเอาเงินที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 27,200 บาท เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ถนนบรมราชชชนี แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมได้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส. หัวหน้า เพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อ่านข่าว สาวร้องถูก แอดมินกลุ่มขายแบรนด์เนม ตุ๋นโอนเงิน เหยื่ออื้อ สูญครึ่งล้าน

พร้อมชุดทำงานจับกุมตัว นายนิติภูมิ ป้องกัน อายุ 19 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงดุสิตที่ จ.247/2563 ลงวันที่ 18 ก.ย.2563 ตามความผิดฐานฉ้อโกง จับกุมได้ที่ใต้ตึก 3 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 36 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ

จากการสอบสวน นายนิติภูมิ ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า เข้าไปอยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กที่ขายสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนมหรือนาฬิการาคาแพงต่างๆ เมื่อพบเป้าหมายประกาศขายสินค้า ก็จะ อินบ็อก (Inbox) ไปติดต่อซื้อสินค้าจากผู้ขายนั้น เมื่อตกลงซื้อขายแล้ว ก็ใช้อุบายอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ให้ซื้อขายผ่านแอดมินของกลุ่มเฟซบุ๊กนี้ หากผู้ขายตกลงก็จะให้คิวอาร์โค้ดแจ้งว่าเป็นไลน์ของแอดมินกลุ่ม ผู้ขายสินค้าก็จะแอดไลน์ไปตามคิวอาร์โค้ดนั้น โดยคิดว่าเป็นแอดมินของกลุ่ม

ในส่วนของผู้ต้องหาคิวอาร์โค้ดที่ให้ไปนั้น เป็นของผู้ต้องหาเอง ก็จะปลอมตัวเป็นเป็นแอดมินกลุ่มดังกล่าว เมื่อเจรจากับผู้ขายสินค้าแล้ว ก็จะอ้างว่าเพื่อความมั่นใจว่าผู้ขายจะส่งสินค้าให้ผู้ซื้อแน่นอน ไม่ขายให้รายอื่น ขอให้ผู้ขายวางเงินมัดจำไว้ที่แอดมินกลุ่มในอัตรา 40% ของราคาสินค้า โดยเมื่อผู้ขายหลงเชื่อโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีที่ผู้ต้องหาให้ไว้ ผู้ต้องหาก็จะลบบัญชีเฟซบุ๊กและไลน์

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ความผิด “ฉ้อโกง” ตาม ป.อาญา ม.341 แต่จากพฤติการณ์การกระทำผิดนั้น เป็นการกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ตาม ป.อาญา ม.342(1)

สำหรับนายนิติภูมิผู้ต้องหา พบว่ามีพฤติกรรมก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยมีผู้เสียหายในคดีนี้แจ้งความดำเนินคดีแล้วไม่ต่ำกว่า 7 พื้นที่ในเขตนครบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน