พ่อแม่กลัวลูกไม่ปลอดภัยขอย้ายโรงเรียนหนี รมช.ศธ.ชี้โรงเรียนเอกชนไม่มีครูพี่เลี้ยง มีแต่พี่เลี้ยง เร่งประสานสธ.เยียวยาเด็กถูกทำร้าย ช่วยผู้ปกครองดำเนินคดี

กรณีที่กลุ่มผู้ปกครองเด็กอนุบาล 3 ขวบ เข้าแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับ ครูจุ๋ม ครูอัตราจ้างโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ทำร้ายร่างกายเด็กอายุ 3 ขวบ โดยนำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ทางโรงเรียนติดไว้ในห้องเรียน อนุบาล 1 อีพี (Ep) มาเป็นหลักฐาน จนกลุ่มผู้ปกครองทนไม่ไหว รุมทำร้ายครูสาวกลางโรงเรียน ส่งผลให้ครูจุ๋มแจ้งความกลับกับผู้ปกครองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ออกแถลงการณ์ไล่ออกครูรายดังกล่าวแล้ว

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือการแก้ไขปัญหา กรณีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ระหว่าง ผู้ปกครอง โรงเรียน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ว่า ข้อสรุปในวันนี้ ศธ.และ สธ.จะร่วมกันเยียวยาจิตใจนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะส่งนักจิตวิทยาเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งตนมอบหมายให้ นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารมช.ศธ. หารือในรายละเอียดถึงขั้นตอน วิธีการที่จะเยียวยานักเรียนต่อไป

อ่านข่าว จ่อออกหมายเรียก ครูจุ๋ม ส่งเด็ก8คนตรวจร่างกาย ลุยเช็กวงจรปิดย้อนหลัง

นอกจากนี้ จะต้องเยียวยาจิตใจนักเรียนที่ถูกทำร้าย จะต้องเยียวยาจิตใจนักเรียนทุกคนในโรงเรียนด้วย ซึ่งศธ.และสธ.จะสร้างกระบวนการการดูแลจิตใจของนักเรียนโรงเรียนเอกชนต่อไป ทั้งนี้ ทางโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ จะรับผิดทุกอย่าง และจะสนับสนุนผู้ปกครองในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย ทางตำรวจะจัดพื้นที่รองรับเพื่อให้ความสะดวกกับผู้ปกครองที่จะมาร้องทุกข์เพิ่มเติม

นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า ซึ่งคำว่าครูพี่เลี้ยงไม่มีในโรงเรียนเอกชน มีแต่พี่เลี้ยงเท่านั้น ซึ่งมาตรการป้องกันเรื่องเหล่านี้ สช.มีมาตรการอยู่แล้ว ที่ผ่านมาอาจจะไม่ประชาสัมพันธ์ให้เพียงพอ หลังจากนี่จะมีการปรับปรุงแก้ไขต่อไป โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนทุกแห่ง จะต้องประกาศให้ผู้ปกครองรับทราบ มีครูที่มีใบประกอบวิชาชีพกี่คน มีพี่เลี้ยงในโรงเรียนกี่คน โดยต้องมีกระบวนการคัดสรร คัดกรองนำเข้าบุคคลเหล่านี้อย่างถูกระเบียบและเคร่งครัด พร้อมรายงานให้สช.ทราบต่อไป

“จากการประชุมร่วมกัน ผู้ปกครองต้องการให้ศธ. และสช. เข้าไปช่วยเหลือ และทำให้โรงเรียนออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนออกมาชี้แจงและรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งผู้ปกครองมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ดิฉันประสานหน่วยงานต่างๆ มาสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ว่าดิฉันจริงใจในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจ ดิฉันยังส่งคณะทำงานลงช่วยเหลือประสานผู้ปกครองเรื่องการดำเนินคดีด้วย ไม่ได้ปล่อยให้ส่วนราชการดำเนินการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนกรณีมีคลิปครูชาวต่างชาติที่ทำร้ายเด็กด้วยนั้น หากพบว่าทำร้ายเด็กและมีความผิดจริง จะประสานตม. เพื่อดำเนินคดีครูรายนี้ต่อไป ซึ่งดิฉันเน้นย้ำสช.ไว้ว่าต่อไปการรับครูชาวต่างชาติต้องมีความเข้มข้น โดยต้องตรวจสอบใบอนุญาตทำงาน และมีหนังสืออนุญาตการทำงานสำหรับครูต่างชาติหรือไม่” นางกนกวรรณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีผู้ปกครองมีความประสงค์ให้ลูกออกจากโรงเรียนกี่คน นางกนกวรรณ กล่าวว่า มีผู้ปกครองบางส่วนที่ประสงค์ให้ลูกไปเรียนที่อื่น ตนสั่งการให้สช.ดำเนินการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก เรื่องการย้ายโรงเรียนให้กับนักเรียนต่อไป สำหรับกรณีที่มีเด็กที่ถูกกระทำจำนวนเท่าใด มีเด็กถูกทำร้ายกี่ครั้ง และจะมีครูที่ทำร้ายนักเรียนเพิ่มเติมอีกกี่คนนั้น ตนยังไม่สามารถบอกได้ ขณะนี้ประสานตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากผู้ปกครองและตำรวจด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน