ผบ.ตร.โชว์ผลงานก่อนเกษียณ ปิดคดีโจรปล้นทอง 216.5 บาท ค่า 6 ล้าน ห้างโลตัสวังหิน เผย 2 ผัวเมียวางแผนแยบยล นำของกลางไปซ่อน ก่อนเตรียมเผ่นออกนอกประเทศ

กรณีคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส สาขาวังหิน แขวง-เขตลาดพร้าว กวาดทองไปประมาณ 216.5 บาท มูลค่า 6.5 ล้านบาท ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ก่อนพบรถจยย.จอดทิ้งอยู่ภายในซอยเสนานิคม 1 ล่าสุดตร.จับโจรปล้นทองได้แล้ว โดยจนมุมที่จ.เลย ขณะเตรียมเผ่นออกนอกประเทศ ส่วนเมียก็โดนรวบด้วยที่หนองคาย ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. ร่วมกันแถลงจับกุม 1.นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 38 ปี ทำหน้าที่ลงมือก่อเหตุ 2.น.ส.จันดา หรือน้อย จันทร์โศก สัญชาติลาว อายุ 24 ปี ซึ่งทำหน้าที่ดูต้นทางและพาหนี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1483-1484/2563 ลงวันที่ 29 กันยายน 2563

อ่านข่าว จับแล้ว!โจรปล้นทอง 200 บาท จนมุมที่เลย ขณะเตรียมเผ่นออกนอกประเทศ

อ่านข่าว รู้เบาะแสแล้วโจรปล้นทอง 200 บาท เผยเชี่ยวชาญอำพรางตัว ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือ

อ่านข่าว โจรผมยาวควงปืน ปล้นร้านทอง ห้างย่านวังหิน กวาด100กว่าบาท มูลค่า4ล้าน

ในฐานความผิด “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยมอบหน้าที่หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ใช้อาวุธปืนใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยจับกุมนายชัยมงคล ได้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เวลา 16.30 น. พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 38.3 กรัม ส่วนน.ส.จันดาจับกุมได้ที่จ.หนองคาย พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 3 เส้น น้ำหนักรวม 331.7 กรัม

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายชัยมงคลและน.ส.จันดา 2 เป็นสามีภรรยากัน ร่วมกันวางแผนเตรียมการ โดยก่อนเกิดเหตุทั้งคู่เก็บของออกจากห้องเช่าภายในซอยเสนานิคม 11 จากนั้นนายชัยมงคลให้น.ส.จันตานั่งรถแท็กซี่ เพื่อไปที่ซอยเสนานิคม 1 ซอย 26 เพื่อสังเกตการณ์จุดที่จะนำรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ เพื่อนำไปทิ้งไว้พร้อมกับสิ่งของพรางตัว

ต่อมาในวันเกิดเหตุนายชัยมงคลขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ทีทีเอ็กซ์ ไปยังห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส วังหิน และใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และนำรถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยเสื้อผ้า และอุปกรณ์พรางตัวไปทิ้งที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยเสนานิคม 1 ซอย 26 แล้วจึงเดินทางไปพบกันที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อแบ่งทองที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ ก่อนแยกย้ายเพื่อหลบหนี

โดยนายชัยมงคลขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิตไปยังจ.เลย เพื่อเตรียมที่จะเดินทางหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนน.ส.จันดาเดินทางจากสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อนำทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งใส่ไว้ในพัดลมตั้งพื้น ไปฝากไว้กับนายสุริยันต์ หรือมอส นิลบรรพต อายุ 37 ปี ในพื้นที่จ.นครปฐม

จากนั้นนายสุริยันต์นำทองดังกล่าวไปซุกซ่อนไว้ในบ้านพัก หลังจากนั้นน.ส.จันดาเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปยังจ.หนองคาย เพื่อเตรียมที่จะเดินทางหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบบ้านพักของ นายสุริยันต์ หรือมอส นิลบรรพต อายุ 37 ปี ในพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พบทองคำรูปพรรณ จำนวน 22 เส้น น้ำหนักรวม 1,247.8 กรัม

โดยนายสุริยันต์ รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. นายชัยมงคลติดต่อตนว่าจะนำเงินที่ติดไว้มาคืนให้ โดยนัดหมายกันบริเวณสะพานลอยหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นครปฐม

เมื่อถึงเวลานัดหมายน.ส.จันดาเป็นผู้นำพัดลมตั้งพื้นมาส่งมอบให้ เมื่อกลับถึงที่พักตรวจสอบภายในพัดลมดังกล่าว พบมีทองคำรูปพรรณและอาวุธปืนซ่อนอยู่ภายใน ตนจึงนำอาวุธปืนไปทิ้งน้ำที่คลองใกล้บ้านพัก และนำทองรูปพรรณไปซุกซ่อนไว้ภายในตู้ลำโพงในโรงงานแห่งหนึ่งในอ.สามพราน จ.นครปฐม

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพบ จึงตรวจยึดทองรูปพรรณดังกล่าว และดำเนินคดีกับนายสุริยันต์ในความผิดฐานรับของโจรฯ ต่อไป อีกทั้งตำรวจยังตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไว้ ซึ่งถูกกลุ่มผู้ต้องหาพ่นสีทับ

จากการตรวจสอบพบว่านายชัยมงคล เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองโต๊ะกังเยาวราช สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 25 มี.ค.52 เวลาประมาณ 10.20 น. และถูกตำรวจจับกุมแล้ว หลังจากพ้นโทษได้ร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์ร้านทองแม่ทองพูลชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 ก.ค.62 เวลาประมาณ 19.25 น.

และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 227/2562 ลงวันที่ 27 ก.ค.62 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน“ ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ” และอยู่ระหว่างหลบหนี จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน