พายุดีเปรสชันมาแล้ว เริ่มถล่มหนักมาก 41 จังหวัด กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ กทม.ไม่รอดโดนเต็มๆ เข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ต.ค.63

วันที่ 7 ต.ค.63 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ “พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง (มีผลกระทบถึงวันที่ 9 ต.ค.2563)” ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 7 ต.ค.2563

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (7 ต.ค.63) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองนาตรัง ประเทศเวียดนามทางตะวันออกประมาณ 245 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออกมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ในวันนี้ (วันที่ 7 ต.ค. 63) หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศกัมพูชา เข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ต.ค.63

พายุนี้จะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 63 และลมแรง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นไปจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบนและภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค.63 ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 7 ตุลาคม 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต

วันที่ 8 ตุลาคม 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และร้อยเอ็ด

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 9 ตุลาคม 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนัก
ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และชัยนาท

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน