นศ.เทคนิค มาสังสรรค์ เจออริเก่านับสิบไล่แทงเสียชีวิต 2 ศพหน้าผับดังในพื้นที่ จ.ปทุมธานี บาดเจ็บอีก 1 ราย ย่าทราบข่าวสุดช็อก เผยปีนี้ก็จะเรียนจบแล้ว
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 ต.ค.2563 พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งเหตุวัยรุ่นแทงกันเสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณถนนรังสิต ม.7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยใกล้หอพักแห่งหนึ่ง พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ขงจ-957 พิจิตร ล้มอยู่มีรอยเลือดหยดหลายจุด รองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายสีน้ำเงินตกอยู่ ใกล้กันพบศพ นายฟลุ๊ค (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สภาพนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ สวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีฟ้าและใส่เสื้อยืดสีดำอีกชั้น มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าใต้ราวนมซ้าย ชายโครง และมือซ้ายรวม 3 แผล
ห่างกันพบศพ นายธี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี สภาพถูกแทงเข้าชายโครงซ้ายและแผ่นหลังรวม 2 แผล นอกจากนี้ ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชายอีก 1 ราย ถูกแทงเข้าใต้ราวนมขวา และเอว เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลมงกฎวัฒนะ โดยพบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ หลักสี่ ชื่อ นายต้น (นามสมมติ) ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้บาดเจ็บทำตกหล่นไว้ และพบมีดปอกผลไม้ 2 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นางสมพิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ย่าของนายฟลุ๊ค ซึ่งเดินมาที่เกิดเหตุหลังทราบว่าหลานชายเสียชีวิต กล่าวว่า หลานชายเรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งปีสุดท้ายใกล้จบแล้ว ซึ่งตนจะบอกเสมอตอนอยู่ที่บ้านก็จะไม่ให้ออกมาข้างนอกเวลากลางค่ำกลางคืน กระทั่งออกมาเช่าหออยู่เอง 2 เดือนแล้ว และขายสินค้าออนไลน์พวกรองเท้า ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีเรื่องกับใครที่ไหน เพราะหลานไม่เคยเล่าให้ฟัง
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตได้มาเที่ยวดื่มกินกันที่ผับแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุชายหญิงรวม 6 คน ขณะกำลังเดินกลับได้มีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ 10 คน เห็นกลุ่มผู้ตายและจำได้ว่าเป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องกัน จึงกรูกันเข้ามาชกต่อยและชักมีดไล่แทงถูกนายฟลุ๊คกับนายธีที่วิ่งหนีมาล้มหน้าร้านยำสิ้นใจเสียชีวิต 2 ศพ และเพื่อนอีกคนบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนที่เหลือกลับมาไม่พบกลุ่มคู่อริ คาดหลบหนีไปแล้วและพบเพื่อนเสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล