เปิดไทม์ไลน์ สลายการชุมนุม-จับแกนนำ กลุ่มคณะราษฎร ประมวลภาพหลังจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้าน ม็อบลั่นเย็นนี้เจอกันที่แยกราชประสงค์

จากกรณี กลุ่มคณะราษฎร จัดกิจกรรมการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ซึ่งมีประชาชนออกมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงบ่าย นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ได้ประกาศเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวางแบริเออร์ ลวดหนาม และตรึงกำลังรอบทำเนียบรัฐบาลเพื่อรักษาความปลอดภัย กระทั่ง กลุ่มคณะราษฎรสามารถเข้ายึดพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลได้ในที่สุด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้แถลงโดยประเมินตัวเลขผู้ชุมนุม ซึ่งอ้างอิงตามสูตรคิดคำนวณทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ถนนพิษณุโลก กว้าง 10 เมตร ยาว 600 เมตร รวม 6,000 ตารางเมตร โดยหากใช้สูตรการคำนวนพบว่า ในเวลาล่าสุดประมาณ 19.00 น. มีผู้ชุมนุมประมาณ 8,000 คน

เปิดไทม์ไลน์ สลายการชุมนุม-จับแกนนำ กลุ่มคณะราษฎร ประมวลภาพหลังจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

เปิดไทม์ไลน์ สลายการชุมนุม-จับแกนนำ กลุ่มคณะราษฎร ประมวลภาพหลังจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ต่อมาเวลา 21.15 น. นายอานนท์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณหน้าทำเนียบ โดยย้ำถึง 3 ข้อเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องออกไปทันที เพราะไม่มีปัญญาบริหารประเทศ ไม่มีความชอบธรรม ให้ไปขายรองเท้าก็ไม่มีคนซื้อ คนไทยจะอดตายทั้งประเทศแล้ว 2.เปิดสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาประชาธิปไตยคืนมา นี่เป็นข้อเรียกร้องต่ำสุด โดยวันที่ 15 ต.ค.นี้ จะล่ารายชื่อเปิดสภาวิสามัญเลย

 

นายอานนท์ ระบุต่อว่า ถ้าไม่ยอมแก้รัฐธรรมนูญ ส.ว. 250 คน และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่มีที่อยู่และที่ยืนในประเทศอีกต่อไป โดยสิ่งที่เราเรียกร้องไม่ต้องเสร็จภายในวันเดียว กินข้าวก็ต้องกินทีละคำ แต่ต้องเริ่มจากเอาประยุทธ์ออกไป

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในเวลา 22.00 น. และขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนไล่ และประกาศว่าจะไม่กลับ ก่อนที่จะนำไปสู่การออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่เข้าทำการสลายการชุมนุมในช่วงกลางดึก ซึ่งมีไทม์ไลน์ ดังนี้

วันที่ 15 ต.ค. เวลา 01.00 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นายอานนท์ ประกาศบนเวทีปราศรัยว่ายุติการชุมนุม ตำรวจไม่มีสิทธิสลายการชุมนุมในเวลากลางคืนเพราะผิดกฎหมาย โดยขอให้ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับในตอนเช้า พร้อมนัดหมายไปรวมตัวอีกครั้งเวลา 16.00 น. ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ หากแกนนำโดนจับก็ไม่ต้องกลัว เตรียมพบแกนนำรุ่นสอง

เวลาประมาณ 04.00 น. นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถูกตำรวจแจ้งจับกุมตัวที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งบน ถ.วิสุทธิกษัตริย์ จากไลฟ์บอกว่ามีหมายมาจากคดีที่เชียงใหม่ คาดจากการจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง เจ้าหน้าที่แจ้งจะพาตัวไป สน.นางเลิ้ง โดนความว่าเป็นคดี ม.116 จากกรณีไฮปาร์คท่าแพ

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร โดยมีรายละเอียดว่า โดยที่ปรากฏว่ามีบุคคลหลายกลุ่มได้เชิญชวน ปลุกระดม และดำเนินการให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะขึ้นในกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการและช่องทางต่าง ๆ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายและไม่สงบเรียบร้อยของประชาชน

มีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน มีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิต หรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล อันมิใช่การชุมนุมโดยสงบที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งยังกระทบโดยตรงต่อสัมฤทธิผลของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะเปราะบาง กรณีจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขกรณีดังกล่าวให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนร่วม

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีจึงให้ประกาศสถานการณฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตั้งแต่ 15 ต.ค.2563 ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เป็นต้นไป

ต่อมาเวลา 04.30 น. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงนอนพักผ่อนเพื่อรอเคลื่อนขบวนไปที่สี่แยกราชประสงค์ นายอานนท์ประกาศให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับทันที​ ทำให้ผู้ชุมนุมรีบเดินทางทยอยแยกย้ายออกจากพื้นที่ชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่เคลื่อนเข้าใกล้ที่ชุมนุม

เวลา 04.40 น. เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมเริ่มต้นจากแยกสวนมิสกวันเรื่อยมา จนถึงทำเนียบรัฐบาล ข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ จนสิ้นสุดที่แยกนางเลิ้ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที พร้อมประกาศห้ามไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพเด็ดขาด

กระทั่งเวลา 05.00 น. มีรถทหารจำนวนมาก พร้อมกำลังพล เข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ. ได้ขึ้นรถขยายเสียง สั่งให้ตำรวจควบคุมฝูงชนรื้อรั้ว และหากพบเห็นใครให้ควบคุมตัวไว้ทุกคน ซึ่งนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำ และนายอานนท์ถูกควบคุมตัว

จนถึงเวลา 06.04 น. เจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่ผู้ชุมนุมไปบนถนนเพชรบุรี โดยขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมมีเพิ่มมากขึ้น และมีการบีบแตรจากรถจักรยานยนต์ด้วยตลอดเส้นทาง

_____________________________________________________

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน