ศธ.แก้ระเบียบทรงผม หากร.ร.ออกกฎเฉพาะต้องยึดสิทธิ-เพศสภาพ ให้นักเรียน ผู้ปกครอง มีส่วนร่วม ควรลงโทษแค่ตักเตือน ทำทัณฑ์บน ไม่ใช่กล้อนผมเด็ก

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายว่า ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมพิจารณาเรื่องระเบียบทรงผมของนักเรียน โดยได้วิเคราะห์และได้ข้อสรุปว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก 3 สาเหตุ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

คือ 1.ตัวระเบียบที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะระเบียบศธ.การไว้ทรงผมของนักเรียน ปี 2563 ในข้อ 7 ที่กำหนดไว้ว่า ให้สถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนวางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้

การดำเนินการให้ยึดถือหลักความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น โดยนักเรียนบางส่วน สะท้อนว่าโรงเรียนไม่ดำเนินการตามระเบียบที่ออกมา ซึ่งนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. สั่งงดการดำเนินการตามระเบียบข้อ 7 เพื่อแก้ไขปัญหาไปพลางก่อน

2.ปัญหาการตีความ โดยเฉพาะการที่ระเบียบการไว้ทรงผมของนักเรียนที่กำหนดให้นักเรียนไว้ผมสั้นหรือผมยาว ซึ่งมีคำถามว่าระดับความยาวนั้นจะต้องสั้นและยาวแค่ไหน และ 3. การลงโทษกรณีที่โรงเรียนและครูเห็นว่านักเรียนไม่ทำตามระเบียบ ที่ผ่านมาพบว่ามีการลงโทษนักเรียนต่างๆ เช่น กล้อนผม ประจานนักเรียน หรือใช้คำพูดทำร้ายจิตใจนักเรียน เป็นต้น

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประเด็น ดังนี้ 1.มีมติปรับปรุงแก้ไข ระเบียบ ศธ. การไว้ทรงผมของนักเรียน ปี 2563 ในข้อ 7 โดยแก้เป็น โรงเรียนสามารถออกระเบียบทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ แต่ระเบียบดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น และถ้าโรงเรียนจะออกระเบียบทรงผมที่มีความเฉพาะเจาะจงนั้น จะต้องยึดเรื่องสิทธิของนักเรียนเป็นตัวตั้ง และคำนึงถึงความหลากหลายทางเพศสภาพของนักเรียนด้วย

“2.การตีความ เรื่องระดับการไว้ผมสั้น ผมยาว จะสามารถไว้ยาวได้แค่ไหน ตัดผมหน้าม้าได้หรือไม่ ที่ประชุมมีมติให้ออกแนวทางปฏิบัติเพื่อแนะนำโรงเรียน พร้อมทั้งให้ตัวอย่างที่ดีกับโรงเรียน ให้ดำเนินการตาม เช่น โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ที่ออกระเบียบทรงผมนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจง โดยปรึกษาหารือกับผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชน และเมื่อร่างระเบียบทรงผมเสร็จแล้ว โรงเรียนก็รับฟังความเห็นจากทุกส่วน ถ้าทุกโรงเรียนสามารถทำตามได้ เชื่อว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้น

และ 3.การลงโทษ ที่ประชุมมีมติว่าการลงโทษนักเรียนนั้น ต้องลงโทษตามระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาเท่านั้น คือว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ไปกล้อนผมเด็ก จนทำให้เด็กเกิดความอับอายและเสื่อมเสียศักดิ์ศรี” นายสมเกียรติ กล่าว

ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมจะหารืออีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาร่างระเบียบ การไว้ทรงผมของนักเรียน ฉบับใหม่ที่มีการปรับปรุงแก้ไข หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบจะนำเสนอร่างระเบียบ ต่อรัฐมนตรีว่าการศธ.ให้ความเห็นชอบต่อไป และคาดว่าจะเชิญกลุ่มนักเรียนเลว เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับที่ประชุมในครั้งต่อไปด้วย

ด้าน นายวีระ แข็งกสิการ รองปลัด ศธ. กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องฯ มีตัวแทนนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหาร เข้ามาร่วมให้ความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งที่ประชุมได้รับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนจากกลุ่มตัวแทนต่างๆ ทำให้สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างรอบคอบและตรงประเด็นมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน