รองผบช.น. เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม เพื่อพยายามยับยั้งไม่ให้มีการทำลายสิ่งกีดขวาง เตรียมตรวจสอบพลุควัน อาจผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิดฯ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พ.ย.2563 ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยว่ากรณีการฉีดน้ำสกัดผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 8 พ.ย.นั้น เป็นไปตามแผนการสกัดกั้นผู้ชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เพื่อต้องให้หยุดหลังมีการรื้อลวดหนาม สิ่งกีดขวาง เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าที่จะฉีดน้ำทางตำรวจ ประกาศแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำ แต่เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่หยุด ตำรวจจึงฉีดน้ำเพื่อป้องกันเหตุร้าย และป้องกันทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย โดยการฉีดน้ำจะเป็นการฉีดในแนวสูง ไม่ได้ฉีดปะทะแนวผู้ชุมนุมโดยตรง และน้ำที่ฉีดนั้นยืนยันเป็นน้ำเปล่าธรรมดา ไม่ได้ผสมสารเคมี

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพบพลุควันในพื้นที่สนามหลวงฝั่งตำรวจนั้น ต้องตรวจสอบว่าเป็นพลุควันลักษณะใด ซึ่งมีการจุดในหลายจุดที่มีการชุมนุม ซึ่งจะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดและพลุดอกไม้เพลิงหรือไม่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในเบื้องต้นบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับศาลหลักเมืองซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ หากมีการกระทำลักษณะดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเสียหายบริเวณดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้มีทหารได้รับบาดเจ็บ หัวแตกเย็บ 3 เข็ม จากการถูกผู้ชุมนุมขว้างปาขวดแก้วใส่ อยู่ระหว่างดำเนินการว่าจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่

ส่วนความเสียหายจากการรื้อรั้วเหล็กแผงกั้นนั้น ขณะนี้ต้องให้ทางกรุงเทพฯ สำรวจความเสียหายแล้วมาแจ้งความดำเนินคดี ส่วนตู้ไปรษณีย์สีแดงที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมานั้นได้นำไปเก็บไว้ที่สน.ชนะสงคราม เพื่อนำไปประกอบการสอบสวน ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้เขียนจดหมายหรือไม่ ต้องดูเนื้อหาในจดหมายว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะที่วันนี้กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือ คปส. ที่ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้มีการชัตดาวน์ประเทศโดยการทำรัฐประหารนั้น จะเข้าข่ายความผิด ม.116 หรือไม่ ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบพฤติกรรรมและเนื้อหาของการยื่นหนังสืออีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน