กรณีนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี ชาวบ้านวังกะโดน ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความที่สภ.นางรอง ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 715431 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค. 2560 จำนวน 2 ใบ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 12 ล้าน ได้หายไป หลังเอาไปซ่อนไว้ใต้เครื่องเสียงภายในบ้านพัก แต่ถูกคนร้ายขโมยไปและถูกนำไปขึ้นเงินรางวัลแล้ว โดยผู้ที่ขึ้นเงินรางวัลเป็นสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ด ขณะเดียวกันพ่อค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็รุดมายืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ เป็นคนซื้อลอตเตอรี่หมายเลขดังกล่าว เพราะมีต้นขั้วยืนยัน ต่อมาตร.หาหลักฐานที่บ้านนายพันธุ์ศักดิ์ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ผู้เสียหายระบุว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่นั้น อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน ว่ามีความเชื่อมโยงอะไรกับสองสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ด ที่มีชื่อนำลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบไปขึ้นเงิน ล่าสุดเจ้าของปั๊มผู้เป็นสามีเข้าให้ปากคำว่าตนเองก็ถูกรางวัลที่ 1 งวดดังกล่าวเช่นกัน จากข้อมูลจากกองสลากและยี่ปั๊วที่รับลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมาจากกองสลากระบุว่า ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นคนรับสลากมาขาย จากข้อมูลการไปขึ้นเงินเป็นที่น่าแปลกว่าสองสามีภรรยาที่มีชื่อไปขึ้นเงินที่กองสลาก ทำไมจึงเดินทางไปขึ้นเงินคนละวันกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว อ่านข่าว สอบ”เสี่ยปม”คดีหวยอลวน ล่ามือฉกขายต่อ ตร.ขอ7วันรู้แน่ คนขายลอตเตอรี่พลิกจำไม่ได้ขายใคร
พ่อค้าขายลอตเตอรี่ยอมเปิดปากยืนยันขายสลากให้ทั้ง 2 คนที่อ้างถูกรางวัล 12 ล้านบาทจริง แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไรและใครเป็นคนถูกรางวัลที่ 1 พร้อมโชว์ต้นขั้วเป็นหลักฐานว่างวดที่ออกรางวัลมาจากแผงของตนเองจริง ยอมรับเครียดหลังถูกโลกโซเชี่ยลด่าว่าพูดกลับไปกลับมา สาบานไม่ได้มีเอี่ยวหรือรับเงินจากเสี่ยที่ไปขึ้นเงินตามที่ถูกกล่าวหา
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายสุวัช จันทร์พลาง อายุ 42 ปี พ่อค้าขายลอตเตอรี่ ซึ่งพบนั่งขายลอตเตอรี่อยู่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนางรอ ยอมออกมาเปิดปากแล้ว หลังถูกกระแสสังคมและสื่อโซเชียลโจมตีว่าพูดกลับไปกลับมา
นายสุวัช พ่อค้าขายลอตเตอรี่ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มีคนถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาทนั้น ตนขายลอตเตอรี่ให้กับทั้ง 2 คนที่อ้างว่าถูกรางวัล 12 ล้านบาทจริง โดยขายให้กับนายพันธุ์ศักดิ์ที่ด้านหลังโรงพยาบาลนางรอง ส่วนเสี่ยที่นำสลากไปขึ้นเงิน ขายให้ที่ร้านส้มตำชื่อร้าน “ตำแหลก” อยู่ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง แต่จำไม่ได้ว่าใครซื้อเลขอะไร เพราะแต่ละวันก็ขายลอตเตอรี่ให้หลายคนจึงจำไม่ได้ใครซื้อเลขอะไรบ้าง
ยืนยันได้เพียงว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค. ซื้อจากตนเองแน่นอน เพราะตนเองยังเก็บต้นขั้วไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำต้นขั้วมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย แต่ต้นขั้วที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวที่ซื้อจากตนเองมี 3 ใบ ส่วนอีก 1 ใบไม่รู้ว่าใครเป็นคนถูก
“หลังมีการเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ก็รู้สึกเครียดมากเพราะถูกโซเชี่ยลต่อว่า ว่าเป็นคนพูดโกหกพูดกลับไปกลับมา จึงอยากจะชี้แจงให้สังคมเข้าใจด้วยว่าที่ตอนแรกผมไปเป็นพยานยืนยันว่านายพันธุ์ศักดิ์ ซื้อลอตเตอรี่กับตนเองจริง ก็เพราะตอนนั้นมีเพียงนายพันธุ์ศักดิ์ ที่มาแสดงตัวว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุดที่ซื้อกับตนเองจึงรับปากไปเป็นพยานให้ แต่พอล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามว่ารู้จักกับเสี่ยคนที่ไปขึ้นเงินหรือไม่ ทันทีที่ผมเห็นหน้าก็ตอบว่าจำได้ เพราะเสี่ยคนดังกล่าวเคยมาซื้อลอตเตอรี่จำนวนหลายพันบาท ทั้งระบุว่าเคยเจอกับเสี่ย 3 ครั้ง คือครั้งแรกก่อนหวยออก เพราะเป็นคนขายลอตเตอรี่ให้เสี่ยที่ร้านส้มตำ ครั้งที่สองประมาณวันที่ 20 ก.ย. ก็เห็นเสี่ยมากินส้มตำที่ร้านเดิมช่วงที่ผมไปเดินหายลอตเตอรี่ ก็ยังถามเสี่ยว่าถูกลอตเตอรี่หรือป่าว แต่เสี่ยก็ไม่ได้ตอบว่าถูกหรือไม่ถูก และครั้งที่ 3 เจอเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ตำรวจไปถามว่ารู้จักเสี่ยหรือไม่” พ่อค้าขายลอตเตอรี่ กล่าว
นายสุวัช กล่าวว่า จึงอยากจะขอความเห็นใจจากสังคมว่าตนเองไม่ได้พูดโกหก ที่พูดไปเป็นความจริงทั้งหมด และขอสาบานว่าไม่ได้มีเอี่ยวหรือรับเงินจากเสี่ยที่ไปขึ้นเงินรางวัลอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทั้ง 2 คนพูดความจริง เพื่อจะได้ไม่กระทบถึงคนอื่น
