หนีกระเจิงทิ้งของกลางเกลื่อน – เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 ธ.ค.63 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกเข้าตรวจสอบผับชื่อ Insanity Nightclub ไม่มีใบอนุญาต ตั้งอยู่ภายในซอย สุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

พบนักเที่ยวชาย หญิงกว่า 150 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ กำลังเต้นเบียดเสียดกันอย่างสนุกสนานตามจังหวะเสียงเพลงโดยไม่ได้มีการเว้นระยะห่างแต่อย่างใด อีกทั้งนักเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย พอนักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ภายในผับเกิดโกลาหลชุลมุน นักเที่ยวหลายคนพยายามโยนยาเสพติดทิ้ง และพยายามวิ่งหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยส่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองสั่งให้เปิดไฟ และประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

จากการตรวจสอบภายในร้านฯ พบยาเสพติดตกอยู่ตามพื้นและในห้องน้ำ มีลักษณะเป็นผงสีขาว คาดว่าเป็นยาเคตามีน และยังพบว่าทางร้านมีการให้บริการ บารากู่ โดยพบมีเตาบารากู่ และตัวยาบารากู่ จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงทำการแบ่งนักเที่ยวชาย หญิง เพื่อตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวฉี่ม่วง รวม 3 รายคาดว่าเป็นชนิดยาไอซ์ 2 ราย ชนิดยาเค 1 ราย

นอกจากนี้ยังพบว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานบริการที่ไม่ได้รับใบอนุญาต เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวผู้จัดการร้านและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้
เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด,กระทำการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
,ขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งนี้ พบว่าเป็นสถานบริการที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด เปิดให้บริการยันสว่างถึงเวลา 04.00 น.ทุกคืน และมิได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไข หรือมีมาตรการในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด เช่น ไม่ได้มีการเว้นระยะห่างระหว่างนักเที่ยว มีการเต้นเบียดเสียดใกล้ชิดกัน หรือไม่ได้มีการติดตั้งฉากกั้นระหว่างโต๊ะ และนักเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกัน

ซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นมีสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งมีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่น่ากังวลว่าที่แห่งนี้อาจจะเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ได้ นอกจากนี้ผับแห่งนี้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในบริเวณนี้เป็นอย่างมาก และยังพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในผับอีกด้วย ซึ่งจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีโทษทางอาญา และฝ่าฝืนคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 22/28558 มีโทษทางปกครองสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา 5 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน