เปิดผลสอบของกลาง 11.5 ตัน พบเป็นยาเคแค่ 1.2 กรัม แฉขบวนการตบตาเจ้าหน้าที่ เลขาธิการป.ป.ส.นำทีมแถลงเอง ลั่นเกินกว่ากม.กำหนด-เอาผิดได้

วันที่ 15 ธ.ค.63 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ที่ปรึกษา บช.ปส. น.ส.กัญญนันท์ คงภัสนิธิโรจน์ ผอ.สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ป.ป.ส. ผู้แทนสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงเปิดผลสรุปผลการตรวจพิสูจน์วัตถุของกลาง คดียึดวัตถุของกลางบรรจุกระสอบ 493 กระสอบ หนักรวม 11.5 ตัน บริเวณโกดังเก็บของ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พบสาร 2 ชนิดคือ สารไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร 481 กระสอบ และสารแคลเซียมคาร์บอเนตที่สามารถนำมาใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท 12 กระสอบ โดยในจำนวนนี้พบปนเปื้อนของยาเสพติด ประเภทเคตามีน 1.2 กรัม

นายวิชัย กล่าวถึงที่มาของการเข้าตรวจค้นโกดังว่า สืบเนื่องจากทางการไต้หวันได้จับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติดข้ามชาติ และประสานมายังป.ป.ส เนื่องจากพบหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาเชื่อมโยงกับโกดังเก็บของในอ.บางปะกง จากนั้นวันที่ 12 พ.ย. เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมตรวจยึดสารต้องสงสัยในโกดัง 493 กระสอบ เบื้องต้นพิสูจน์กับชุดทดสอบสารเคมีพบว่าสารต้องสงสัยให้ผลเป็นสีม่วง จึงส่งตรวจอย่างละเอียดในห้องแล็บที่ สำนักงานป.ป.ส.ภาค 1 จ.ปทุมธานี เพื่อยืนยันผลตรวจ โดยบูรณาการระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกันตรวจสอบ

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ผลการตรวจพิสูจน์เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สามารถสรุปได้ว่า ของกลางทั้งหมดถูกวางอยู่ภายในโกดัง กระจายอยู่ในบริเวณใกล้กัน แบ่งออกเป็น 4 จุดคือ จุดที่ 1 เป็นกระสอบสีขาว เย็บปากถุงไว้แบบหลวมๆ 66 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,664 กิโลกรัม พบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต

จุดที่ 2 เป็นกระสอบสีขาว เย็บปากถุงไว้อย่างแน่นหนา 200 กระสอบ น้ำหนักรวม 5,109 กิโลกรัม พบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต จุดที่ 3 เป็นกระสอบสีฟ้า-ขาว เย็บปากถุงไว้อย่างแน่นหนา 200 กระสอบ น้ำหนักรวม 5,020 กิโลกรัม พบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต และจุดที่ 4 เป็นกระสอบคละลาย 27 กระสอบ น้ำหนักรวม 656 กิโลกรัม โดยแต่ละกระสอบถูกเปิดปากถุงไว้ และมีสารบรรจุอยู่ไม่เต็มถุง จากการตรวจสอบพบเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต 15 กระสอบ

นายวิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ในกระสอบทั้งหมดพบ 12 กระสอบ น้ำหนักรวม 301 กิโลกรัม เป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนต และตรวจพบ “เคตามีน” น้ำหนัก 1.2 กรัม ปนเปื้อนในสารดังกล่าว ปริมาณที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยสารไตรโซเดียมฟอสเฟตและสารแคลเซียมคาร์บอเนตจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

แต่เชื่อว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมาพักไว้ในไทย เพื่อสับเปลี่ยนเคตามีนกับสารเคมีที่พบ เนื่องจากมีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายคลึงกัน เพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่และสำแดงเป็นเท็จ ก่อนส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน-ไต้หวัน โดยใช้โกดังในจ.ฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่สับเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นวิธีการใหม่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินคดี ป.ป.ส.ร้องทุกข์กล่าวโทษที่บช.ปส. ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. แยกเป็น 2 คดี คดีแรกเป็นคดีที่ทางการไต้หวันจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดเคตามีนที่ส่งจากไทย ถือเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ต้องส่งเรื่องไปที่อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการ

และคดีที่ 2.กรณีตรวจพบสารเคมีในโกดังเก็บของที่จ.ฉะเชิงเทรา สำนักงาน ป.ป.ส. จะส่งผลการตรวจให้พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย ในข้อหามีเคตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไว้อีกส่วนหนึ่งแล้ว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การพบเคตามีนปนเปื้อนเพียงเล็กน้อยจะเป็นการกลั่นแกล้งผู้ต้องหา นายวิชัย ยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งและยาเสพติดที่พบเกิน 0.5 กรัม สามารถดำเนินคดีฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ ได้ พร้อมเชื่อว่าขบวนการนี้ มีการนำสารเคมีมาใช้บังหน้าลักลอบขนส่งยาเสพติด เพราะสารเคมีทั้งสองตัวนี้มีลักษณะคล้ายเคตามีน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน