อนุทิน ชี้ ต้นตอ เจ๊แพปลา สมุทรสาคร ติด โควิด-19 จากแรงงานต่างด้าว เปรย ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่ง ผู้ประกอบการนำแรงงานไปสอบโรคได้ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังพบเจ๊แพปลาติดโควิด-19 ว่า
กระทรวงสาธารณสุขระดมเจ้าหน้าที่เต็มที่ ดังนั้น คิดว่าการควบคุมการแพร่ระบาดของการกระจายเชื้อเชื่อว่าสามารถควบคุมได้ ตนสั่งการอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้วว่าห้ามออกจากจังหวัดสมุทรสาครให้ปักหลักอยู่ที่นั่นเพื่อคอยสืบสวนและสอบสวนโรค จนไปถึงตรวจสอบคนที่อยู่ในวงกลุ่มเสี่ยง คือ สัมผัสสูง สัมผัสกลาง สัมผัสต่ำจากผู้ป่วย
- โควิด โผล่มหาชัย! เปิดไทม์ไลน์‘เจ๊แพปลา’ เผยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 18 คน
- พบเจ้าของแพกุ้ง สมุทรสาคร ติดโควิด ผู้ว่าฯ สั่งด่วน พ่นยาฆ่าเชื้อล้างตลาดกุ้งมหาชัย
- ตร.สมุทรสาคร เอาจริง จับคนไม่สวมแมสก์ออกจากบ้าน หลังเจ๊แพปลาติดโควิด
- อนุทิน จ่อตรวจเช็ก นับหมื่นราย! ใกล้ชิด เจ้าของแพปลา ติดโควิด
ที่น่าเป็นห่วงคือมารดาของผู้ติดเชื้อ เนื่องจากมีอายุ 95-97 ปี เข้าข่ายเสี่ยงสูง ขณะนี้ถึงมือแพทย์หมดทุกคนแล้ว ส่วนการตรวจเชื้อนั้นต้องขยายวงเพื่อให้เกิดความมั่นใจสูงสุดคือหลายพันคน เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ขออย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ขอให้ยึดใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้นตอมาจากเจ้าของแพหรือจากแรงงานต่างด้าว นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะมาจากแรงงานต่างด้าวมากกว่าตามที่อธิบดีกรมควบคุมโรครายงาน เพราะคนที่อยู่ในเรือประมงเราก็ไม่รู้ว่าเขาป้องกันอย่างไร และเมื่อเรียกตัวมาสอบแล้วว่าจะให้ข้อมูล เราก็ต้องเอาโทรศัพท์ของเขามาดูข้อมูลเพื่อยืนยันและตรวจสอบว่าอยู่ที่ไหน ไปที่ไหนบ้าง อย่างกรณีนี้ถ้าเขามาจากท่าขี้เหล็ก เราก็จะได้สอบโรคได้ว่าต้นตอมาจากไหน อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันว่าจะปิดเคสให้ได้ภายในสัปดาห์นี้แน่นอน
ตอนนี้ถ้าเราเจอคนไข้เรารักษาได้ เพราะส่วนใหญ่คนไข้ยังไม่แสดงอาการเข้าขั้นตรีทูต เพราะฉะนั้นการรักษายังสามารถทำได้ในระยะเวลารวดเร็ว โอกาสที่จะกระจายเชื้อก็น้อย เชื้อโควิด-19 มีทั้งส่วนแข็งแรงและส่วนอ่อนแอ ตอนนี้เราก็จับส่วนอ่อนแอมาบี้ ส่วนที่แข็งแรงก็ต้องพยายามไม่ให้มันแผลงฤทธิ์
กรมควบคุมโรคพยายามคิดวิธีที่จะทำให้เกิดความรวดเร็ว และประหยัดงบประมาณในการตรวจสอบคิดกันทุกวินาที เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าไม่ได้ความร่วมมือ สิ่งที่เกิดความเสียหายคือเราต้องเสียทรัพยากรและบุคลากรในการสอบโรคอย่างมากเพื่อหาให้เจอและปิดเคสได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ไปตรวจสอบโรคได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทำได้ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น เพราะยังไม่มีการระบาดนอกวง ยังอยู่ในกลุ่มที่ตามเจออยู่ และขยายขอบข่ายการตรวจ ซึ่งถ้าถึงจุดนั้นทำแน่นอน ไม่ต้องห่วง