ชุดเหยี่ยวดง บุกค้นโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท ตะลึงซากสัตว์ป่าทั้งเสือโคร่ง เสือดำ ยันกระดองเต่ากระ พบเจ้าของเป็นชาวไต้หวันนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ รอเรียกตัวมาดำเนินคดี
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.63 นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนสั่งการให้นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดเหยี่ยวดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส.

นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.260/2563 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 เข้าตรวจค้นโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่าครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นจำนวนมาก
เสือดำ
จากการตรวจค้นที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ พบมีน.ส.ระวีวรรณ(สงวนนามสกุล)รับเป็นผู้จัดการ โดยจากการตรวจค้นที่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟ พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่นซากกระดองเต่านา ซากกระดองเต่ากระ

และจากการตรวจค้นส่วนอื่นๆของโรงแรม ก็ยังพบซากสัตว์ป่าสายพันธุ์ไทยและสายพันธุ์ต่างประเทศ เช่น เสือดำ เสือโคร่ง เสือลายเมฆ และเต่าหา รวมถึง 34 ซาก จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวนทราบว่าซากสัตว์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขณะนี้ไปปฏิบัติงานที่ต่างประเทศ โดยขณะตรวจสอบถึงชั้นที่ 4 ปรากฏว่าน.ส.ระวีวรรณได้วิ่งหลบหนีออกจากโรงแรม ไม่สามารถติดตามตัวได้ ภายหลังตรวจสอบพบว่าน.ส.ระวีวรรณ นั้นมีชื่อเป็นคณะกรรมการลงชื่อผูกพันของโรงแรมดังกล่าวด้วย

ขณะที่นายถิรเดช เปิดเผยว่า ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งผ่านเพจ”สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362″ ว่าโรงแรมแห่งนี้มีการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ ก็พบซากสัตว์ทั้งหมด

ส่วนเจ้าของโรงแรมนั้นทราบว่าชาวไต้หวัน ซึ่งทางผู้จัดการโรงแรมอ้างว่า เจ้าของเป็นผู้ที่ซื้อซากสัตว์มาสะสมและใช้ประดับตกแต่งโรงแรมเท่านั้น ไม่ใช่ขบวนการล่าหรือค้าซากสัตว์ป่า แต่เนื่องจากว่าตัวเจ้าของโรงแรมเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สามารถแสดงหลักฐานการครอบครองได้

ทั้งนี้จากการตรวจสอบลักษณะซากสัตว์มีร่องรอยกระสุนปืนบนผิวหนังคล้ายกับการถูกล่า และยังมีซากสัตว์ทะเลหายาก ทั้ง ซากเต่ากระ เต่านา เต่าหญ้า เต่าตนุ ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์มาก สำหรับมูลค่าของกลางทั้งหมดก็น่าจะมีมากกว่า 5 แสนบาท หากมีซื้อขายกันในตลาดมืด

ทั้งนี้สำหรับการจับกุมดังกล่าว ทางตัวเจ้าของโรงแรมน่าจะมีความผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนี้จะส่งให้ตำรวจ บก.ปทส.สอบสวนเพื่อออกหมายเรียกเจ้าของซากสัตว์ป่าให้มาแสดงตัว และรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน