กทม. ขยายเวลาทานอาหารในร้าน ลดผลกระทบประชาชน ย้ำเขตตรวจตราดูแลให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด ชี้ฝ่าฝืนปิด 14 วัน

ที่ศาลาว่าการ กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการขยายเวลาจำหน่ายและนั่งรับประทานอาหารในร้าน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า กรุงเทพมหานครเห็นชอบตามมติของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ที่มีมติขยายเวลาจำหน่ายอาหาร เพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ

จากเดิมที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติให้จำหน่ายและนั่งทานอาหารที่ร้านได้ระหว่างเวลา 06.00-19.00 น. ขยายเวลาเป็น 06.00-21.00 น. ส่วนเวลา 21.00 -06.00 น. ให้เป็นการจำหน่ายอาหารแบบสั่งกลับบ้าน (Take Away)

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 2/2564 โดยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน บช.น. ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

ที่ประชุมได้หารือถึงการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ โดยที่ประชุมได้กำชับให้สำนักงานเขตติดตามมาตรการตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนดและให้ปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด 100% เช่น มาตรการเกี่ยวกับร้านจำหน่ายอาหาร อาทิ กำหนดเวลาให้ซื้อและนำกลับไปทานนอกร้าน ห้ามรับประทานสุราในร้าน การระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น

หากพบร้านใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามให้ผู้อำนวยการเขต ในฐานะเจ้าพนักงานโรคติดต่อสั่งปิดบริการเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดตั้งด่านคัดกรองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมทั้งสิ้น 14 จุด เพื่อควบคุมและตรวจคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ดี เพื่อความสะดวกของประชาชน จึงเห็นควรลดด่านดังกล่าว คงเหลือ รวมทั้งสิ้น 8 จุด และขอให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านเข้มงวดการตรวจยานพาหนะอย่างเต็มกำลัง โดยใช้ระบบ BKKCOVID-19 แทนการบันทำด้วยมือ ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานให้มากที่สุดด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน