เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวกลุ่มวัยรุ่น ผู้เสพ ผู้ขาย เกี่ยวข้องยาเคนมผง ดำเนินคดี พ่อแม่โวย ตั้งข้อหาเกินกว่าเหตุ ด้านหนุ่มคนขายชี้ โจ๋ไปผสมกันมั่วเอง

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.64 ที่ สน.วัดพระยาไกร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังชุดสืบสวนตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหา ร่วมกันเสพยาเสพติดจนนำไปสู่การเสียชีวิตของหญิงสาว PR สถานบันเทิง ย่านพระราม 3 ประกอบด้วย นายวิรัฐ กาเผือก หรือ “ป๋อง” อายุ 26 ปี เจ้าของบ้าน นายวัชระ เชียงฉิน หรือ “โบ้” อายุ 22 ปี เพื่อนของผู้ตาย และผู้นำยามาขายให้วัยรุ่นคือ นายชาตรี ศรีสมบัติ หรือ “โจ” อายุ 19 ปี และ นายนพเก้า อบถม หรือ “ตูมตาม” อายุ 26 ปี ถูกดำเนินคดี แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติด (เฮโรอีนและยาเค) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

พ่อโจ๋โวย ตั้งข้อหาเกินไป หนุ่มขายเคนมผง ลั่นแรงกว่านี้ยังไหว อ้างผสมมั่วเอง!

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อและแม่ของนายโจ เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ขายรายใหญ่​ และตั้งข้อหากล่าวเกินกว่าเหตุ​ นายโจ ​ยืนยันว่า​ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากวันเกิดเหตุ ติดรถจักรยานยนต์​ของตูมตามออกมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ตื่นมาก็มีตำรวจ​ 3 สน.​ ระดมกำลังมาปิดซอยในบ้าน ตรวจค้น

นายโจ ยอมรับว่าเป็นเพื่อนกับนายป๋อง ส่วนยาเสพติดที่ครอบครอง​คือ​ เค​ ชนิดเกล็ด​ ไม่เคยขายเคนมผง​ โดยในกลุ่มจะเรียกกันว่า ชาเขียว​ ซึ่งผู้ที่เสพเหมือนกันก็ใช้ยาตัวเดียวกัน​ใช้ถึง 4 จี​ ก็ยังไม่เป็นอะไร​ อยู่ที่สภาพร่างกายแต่ละคน​ ส่วนเคนมผง​ กลุ่มผู้เสพนำไปผสมกันเอง​

ขณะที่​เเม่ของนายป๋อง​ กล่าวว่า คงไม่ประกันตัวลูกชายเพราะไม่มีหลักทรัพย์​ ปล่อยให้ลูกถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย​ จากการพูดคุยกับลูก ลูกชายร้องไห้​เพราะกลัวติดคุกนานหลายปี​ เเละกลัวว่าเมื่อพ้นโทษจะไม่เจอเเม่​เพราะเเม่อายุเยอะเเล้ว​ ขณะเดียวกันแม่เล่าว่า​ วันที่เกิดเหตุพ่อได้พยายามให้ไล่ทุกคนกลับบ้าน​ แต่ก็ยังกลับมาอีก​

พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังสี ผกก.สน.วัดพระยาไกร เผยว่า จะยังไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 4 คนวันนี้ เนื่องจากยังต้องสอบสวนขยายผลหาต้นตอขบวนการเพิ่ม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้เสียชีวิตจุดอื่นในเขตพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ซึ่งคดีอื่นๆ อยู่ระหว่างสอบสวนควบคู่กันไป ส่วนผู้บาดเจ็บในพื้นที่ทั้ง 3 คน ตำรวจยังไม่สามารถเข้าไปสอบปากคำได้ เนื่องจากยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ใส่ท่อช่วยหายใจ​

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน