จากกรณีมีการแชร์ภาพ แผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยระบุว่า เป็น การขายสลากราคา 80 บาท และ ค่าบริการ 10-20 บาท กองสลาก ตอบแล้วทำไม่ได้

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การขายสลากในลักษณะราคา 80 บาท และ ค่าคิดบริการ 10-20 บาทนั้น กองสลากฯ ถือว่าการขายในลักษณะนี้ ผิดเงื่อนไข ไม่สามารถทำได้ และเป็นการขายเกินราคา ซึ่งต้องถามว่า ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น คือค่าบริการอะไร เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งในการขายเกินราคา แต่เป็นกลอุบายในการขายเท่านั้น

“มันคือค่าบริการอะไร คนขายตอบได้หรือไม่ การขายสลาก 80 บาท แต่อ้างว่ามีค่าบริการ 10-20 บาท อย่างไรก็ถือว่าขายเกินราคา มีความผิด ผู้ซื้อสามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งจากการดำเนินคดีกับผู้ขายเกินราคาที่ผ่านมา ศาลเคยมีฎีกาออกมาในกรณีพบผู้ขายสลากที่ราคา 90 บาท โดยอ้างว่าเป็นการผิดสัญญา ขายเกินราคา แม้จะอ้างว่าส่วนที่เกิน 10 บาท นำไปใช้ซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ก็ตาม” พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าว

พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า สำนักงานได้จัดสรรส่วนแบ่งให้กับผู้ค้าที่ขึ้นทะเบียนและรับสลากไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันได้มีการกำหนดสัดส่วนการจัดสรรเงินส่วนลด ให้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยให้มีรายได้จากการจำหน่ายสลากมากขึ้น จากเดิมส่วนลด 7% (ฉบับละ 5.60 บาท) เป็น 12% (ฉบับละ 9.60 บาท) เพียงพอต่อการดำรงชีพและเป็นมูลเหตุจูงใจ ให้ร่วมขายสลากในราคา 80 บาท และไม่มีการกำหนดค่าบริการอะไรเพิ่ม

อย่างไรก็ดี จากกรณีที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นผลมาจาก การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ที่เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแส หากพบขายสลากเกินราคา ผู้นำแจ้งจับจะได้รับเงินรางวัลคดีละ 1,000 บาท ทำให้ผู้ค้าต้องออกอุบายในการจำหน่ายสลาก เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย โดยช่วงปี 2563 มีผู้แจ้งเบาะแส และ กองสลากฯ ได้จัดสรรเงินรางวัลนำจับไปแล้ว กว่า 8 ล้านบาท โดยขั้นตอนจ่ายเงินรางวัลนำจับ จะต้อง พบ และมีการแจ้งจับกุม เมื่อจับกุมแล้ว ต้องได้รับการสารภาพ พร้อมเสียเทียบปรับ จึงจะสามารถจ่ายเงินรางวัลแจ้งจับได้

ขณะเดียวกัน ใน พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 โดยมีการเพิ่มโทษการจำหน่ายสลากเกินราคา จากเดิมปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยหากพบว่ามีการขายเกินราคา ก็จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ค้า โดยในปี 2563 จับกุมและยกเลิกสัญญา 6,047 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน