อย่าเพิ่งแชร์ ภาพตำรวจเป็นเทคโนโลยีภาพชัด ทำให้หน้าที่ปรากฎอาจไม่ตรงความจริง แม้เป็นภาพที่ถ่ายจากสถานการณ์จริง อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ให้รอยืนยันตัวตนจริง
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 โซเชีลยมีเดียมีการเผยแพร่ภาพใบหน้าของตำรวจที่ทำร้ายผู้ร่วมชุมนุม จากภาพแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวได้ทำการใช้ขาเตะไปยังกลางลำตัวของผู้ร่วมชุมนุมอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ภาพดังกล่าว เป็นภาพที่ถ่ายจากสถานการณ์จริง อย่างไรก็ตาม ภาพ “ใบหน้า” ของตำรวจคนดังกล่าวที่ถูกขยายให้ชัดขึ้น ซึ่งขณะนี้ กำลังถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดีย อาจไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือต้นฉบับ เนื่องจาก ภาพดังกล่าวมีร่องรอยของเทคโนโลยีที่ทำให้ภาพชัดขึ้น ซึ่งในโซเชียลมีเดีย มีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sirakorn Lamyai (ศิระกร ลำใย) ได้ให้ข้อมูลไว้ ดังนี้
“ภาพใบหน้าตำรวจที่ทำร้ายประชาชนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด: เทคโนโลยีทำให้ภาพชัดบางเทคโนโลยี อาจทำให้ไม่ได้รูปภาพที่เหมือนต้นฉบับเสมอไป
ช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคม 2564 ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์แชร์ภาพประกอบสองภาพ ซึ่งเป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมในการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมกับภาพระยะใกล้ (close up) ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกระทำการรุนแรงดังกล่าว [1]แม้ว่าจะเห็นชัดว่ามีการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งไม่มีอาวุธอันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุและละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน แต่เป็นไปได้ที่ภาพใบหน้าของตำรวจคนดังกล่าวจะเป็นภาพที่ไม่สามารถใช้ในการอ้างอิงเพื่อสืบหาตำรวจผู้กระทำผิดมาลงโทษ เนื่องด้วยเหตุผลต่อไปนี้
หากพิจารณาบริเวณคางและแก้มของตำรวจในภาพ จะพบร่องรอยเสมือนกลุ่มเนื้อซึ่งเกาะตัวกันแบบผิดปกติ สิ่งเจือปน (artifact) ในภาพเหล่านี้อาจบ่งชี้ [2] ว่าภาพใบหน้าภาพนี้เป็นภาพที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมสำหรับขยายขนาดภาพ (image upscaling softwares) ซึ่งใช้เทคโนโลยีจำพวกการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) แบบต่างๆ เข้ามาช่วยในการสร้างภาพ
หลักการในการสร้างโปรแกรมลักษณะดังกล่าว หากให้อธิบายโดยง่ายที่สุด คือนำภาพหน้าคนจำนวนมากมาเบลอ แล้วสอนให้โปรแกรมรู้จักคู่ของหน้าคนก่อนและหลังเบลอ เมื่อโปรแกรมเห็นภาพหน้าคนที่เบลอ ก็จะสามารถหยิบรายละเอียดจากภาพหน้าคนที่ชัดที่โปรแกรมเคยเห็นมาก่อนหน้านี้เพื่อเติมลงไปในภาพได้
อย่างไรก็ตาม การที่โปรแกรมหยิบรายละเอียดมาเติมในภาพ ไม่ได้หมายความว่าหน้าตาของบุคคลในภาพหลังจากที่โปรแกรมเติมเข้าไป และหน้าตาของบุคคลจริง จะเหมือนกันทั้งหมด
โปรแกรมจะเติมภาพได้ดีที่สุดเท่ากับภาพทั้งหมดที่โปรแกรมเคยเห็นระหว่างที่มันเรียน ในบางกรณีโปรแกรมอาจจะเติมภาพได้ไม่ถูกต้องแม้แต่น้อย เช่น ในงานวิจัยโครงข่ายประสาทเทียม PULSE [3] สำหรับการเติมรายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน มีผู้ค้นพบว่า PULSE เติมใบหน้าของบารัก โอบาม่า ด้วยเอกลักษณ์และโครงหน้าของผู้ชายผิวขาว
[4] ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยง่ายผ่านการที่โปรแกรมไม่ได้เรียนรู้ลักษณะของใบหน้าคนที่หลากหลายมากพอ แม้เทคโนโลยีจำนวนมากอาจทำหน้าที่เหมือนช่วยเหลือในการสืบหาความจริงจากหลักฐานที่มีจำกัด ผู้ใช้ควรตระหนักถึงข้อจำกัดและข้อควรระวังเมื่อใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์ที่มากที่สุด”

Facebook : Sirakorn Lamyai

Facebook : Sirakorn Lamyai