อธิบดีคุมประพฤติ เผยชัดๆ เงื่อนไข สรยุทธ หลังได้รับการพักโทษ ติดกำไลอีเอ็ม พ้นเรือนจำ ห้ามเป็นพิธีกรหรือโฆษณาในงานการเมือง
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 16 มี.ค.2564 นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้ชี้แจงถึงมาตรฐานการดูแลผู้ได้รับการพักการลงโทษของกรมคุมประพฤติว่า เป็นการดูแลผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสให้มาใช้ชีวิตในชุมชน โดยเป็นการดูแลผู้กระทำผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขการพักการลงโทษ ประกอบด้วย รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ พักอาศัยอยู่กับผู้อุปการะตามสถานที่ที่แจ้ง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นให้ยื่นคำร้องต่อพนักงานคุมประพฤติโดยต้องได้รับการอนุญาตก่อน ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำตักเตือนของพนักงานคุมประพฤติ
และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการแก้ไขฟื้นฟูตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมคุมประพฤติกำหนด รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ หากมีการฝ่าฝืนและถูกลงโทษ โดยเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ ไม่ว่าจะเป็นโทษสถานใด นักโทษเด็ดขาดหรือผู้มีอุปการะต้องแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติทราบทุกครั้ง ประกอบอาชีพสุจริต และเงื่อนไขอื่นตามที่คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษกำหนด
- สิริมงคลชีวิต! ‘สรยุทธ’ โพสต์ภาพ กลับบ้านกราบรูปพ่อ-แม่ หลังได้พักโทษ
- ปล่อยตัว ‘สรยุทธ’ พักโทษติดกำไลอีเอ็ม คนดังรอรับ ‘โก๊ะตี๋’ เตรียมชุดให้
- สรยุทธ เปิดใจหลังพ้นโทษ ตอบแล้วกลับมาเล่าข่าวไหม รับ 5 ปีไม่ได้ทำงาน
สำหรับการติดอุปกรณ์อีเอ็ม ในกรณีได้รับการพักการลงโทษ กรมคุมประพฤติจะติดอุปกรณ์เป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของโทษที่เหลืออยู่ โดยหลักการของอุปกรณ์อีเอ็ม จะเป็นการติดตาม ตรวจสอบ การเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิด
นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อว่า กรณีการปล่อยตัว นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ซึ่งคงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จึงมีระยะเวลาในการติดอุปกรณ์อีเอ็ม จำนวน 14 เดือน ซึ่งเป็นไปตามหลักการและการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ได้รับการพักการลงโทษรายอื่น ตลอดจนมีเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น ห้ามเข้าใกล้เรือนจำ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตก่อน
ไม่ให้ประกอบอาชีพทำธุรกิจหรือธุรกรรมกับบุคคลที่มีคดีความ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ให้เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับการเมือง แต่สามารถทำหน้าที่ของสื่อภายใต้จรรยาบรรณของวิชาชีพได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปัจจุบันยอดการติดอุปกรณ์อีเอ็มกับผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสกลับมาใช้ชีวิตในสังคมแล้ว 33,000 ราย ซึ่งทุกรายได้รับการดูแลเป็นไปตามมาตรฐานการคุมความประพฤติ