เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 พ.ย. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พร้อมนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมากองปราบปรามเพื่อสอบปากคำ น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ โมนา อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี นายจ้างและเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายน้องน้ำ สาวใช้วัย 16 ปี จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยผู้ต้องหาเป็นน้องสาวผู้ใหญ่บ้าน และอดีตผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้หน้าห้องเลขที่ 107 โรงแรม ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคืนที่ผ่านมา

นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาของ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือ น้องน้ำ อายุ 16 ปี ที่ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต กล่าวว่า ตั้งแต่น้องน้ำไปทำงานก็ไม่ได้มีโอกาสเจอน้องอีกเลย ทราบข่าวอีกทีพบว่าลูกสาวเป็นศพแล้ว จึงประสานกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ดำเนินเรื่องให้ โดยเมื่อพบโครงกระดูกแล้ว แม้ผลนิติวิทยาศาสตร์จะยังไม่ออกมายืนยัน แต่ตนเองจำรายละเอียดของลูกสาวได้ดีและมั่นใจว่าโครงกระดูกที่พบคือลูกสาวของตน

นางจันทิรา กล่าวว่า เมื่อน้องหายไปในปีแรก ก็ปักใจว่าต้องเสียชีวิตไปแล้ว แต่ตนเองก็ยังออกตามหาอยู่ เมื่อน้องน้ำได้ไปทำงาน ตนมีโอกาสติดต่อเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ได้ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องน้ำก็ตอบว่าอยู่ได้ สบายดี แต่ล่าสุดตนได้รับข่าวจากนายจ้าง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 เม.ย. 55 ว่าน้องน้ำหนีออกจากบ้านตอน 05.00 น. ตนเองก็แปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีการห้ามอะไร เพราะลักษณะนิสัยส่วนตัวของน้องน้ำ ไม่น่าจะหนีออกจากบ้านได้ แม้จะไปเที่ยวกลับดึก ก็จะกลับมานอนบ้านทุกครั้ง ตนจึงได้ออกตามหาลูกสาวบริเวณพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 14 เม.ย.55 จึงตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางจันทิรา กล่าวอีกว่า ตนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทราบจากคนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ว่าลูกสาวตนถูกทำร้ายร่างกายทุกวันจนเสียชีวิต โดยตนได้ข้อมูลนี้จาก น้องเฟียร์ บุตรสาวของ น.ส.กฤษณา หรือ โมนา ที่ได้พยายามติดต่อมาทางคุณแม่ของน้องน้ำ เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากน้องเฟียร์ก็โดนแม่ของตัวเอง หรือ โมนา ทำร้ายร่างกายเช่นกัน พร้อมกับบอกลักษณะของน.ส.โมนา เป็นคนอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง เมื่อน้องน้ำทำอะไรให้ไม่พอใจจะทุบตี จนร่างกายเป็นแผล เขียวช้ำ กรามหัก ซี่โครงหัก และไม่ได้พาไปหาหมอ ถูกล่ามโซ่ไว้กับระเบียง ให้ใส่แพมเพิร์สตัวเดียว ถูกขังไม่ให้ไปไหน น้้องน้ำถูกล่ามโซ่ และโดนทำร้ายร่างกายทุกวันจนเสียชีวิต ซึ่งขณะที่น้องน้ำเสียชีวิต นายจ้างเองก็ไม่ทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้ว

“ถ้าน้องทำอะไรผิด ทำไมไม่ส่งตัวคืนแม่ ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนี้ หัวอกคนเป็นแม่มันทรมาน เค้าทำลูกเจ็บขนาดนี้ ต้องตายไปตามๆกัน” นางจันทิรา กล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับมีพยานหลักฐานเพื่อเอาความผิดกับนายจ้างจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตลอดเวลา 5 ปี แม่ไม่เคยละความพยายามตามหาลูกเลย ถึงวันนี้แม่เจอลูกแล้ว แม่จะทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ลูกสู่สุคติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของอายุความของคดีร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพนั้น ได้หมดอายุความไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2560 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาต่อน.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ โมนา อายุ 46 ปี และพวกในคดีอื่นๆ ได้ ถ้าหากในชั้นสอบสวนพิจารณาแล้วว่ามีความผิดจริง

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ส่วนอีก 3 คนในครอบครัวที่มีส่วนร่วมในคดีนี้ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นำไปสู่การจับกุม น.ส.กฤษณา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน