สบส.-อัจฉริยะ ขึ้นโรงพักพหลโยธิน แจ้งความเอาผิด โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง 2 ข้อหา ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล ปม พริตตี้วาวา เสียชีวิต
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 มี.ค.2564 นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าเเจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน เพื่อเอาผิดโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านเกษตร
กรณีที่ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ วาวา พริตตี้สาว เข้ารับการรักษาด้วยอาการโคม่าที่โรงพยาบาลดังกล่าว เเต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำการรักษาทันที ซึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ UCEP โดยนำหลักฐานสำเนาเอกสารภาพถ่าย ใบเสร็จชำระเงินมาเป็นหลักฐาน
นายชาตรี กล่าวว่า วันนี้ได้นำเอกสารมาเเจ้งความเอาผิดโรงพยาบาลเอกชน หลังจาก น.ส.วาวา เข้ารักษาด้วยอาการโคม่า ในวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เเต่โรงพยาบาลกลับประวิงเวลา ไม่ทำการรักษาทันที โดยอ้างว่าต้องวางเงินมัดจำในการรักษาพยาบาลก่อน 15,000 บาท ซึ่งขัดต่อสิทธิ UCEP หรือหลักการรักษาคนไข้ฉุกเฉินในวิกฤตเช่นนั้น
- ส่อพลิก! คดีพริตตี้วาวา ตร.เผยหลักฐาน ภาพวงจรปิดที่กู้ได้
- กู้วงจรปิดบ้านปาร์ตี้ได้แล้ว! คลี่ปม พริตตี้วาวา ดับ เผยนาทีสุดช็อกตอนตี4
- เผาแล้ว พริตตี้วาวา ญาติ เพื่อน สุดเศร้า คาใจปมดับปริศนา ไม่เชื่อเสพยาเอง
นายชาตรี กล่าวต่อว่า ซึ่งผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตร 36 ว่าด้วยสถานพยาบาลต้องควบคุมเเละดูเเลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาเเก่ผู้ป่วยฉุกเฉินที่อยู่ในสภาพอันตรายเเละจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างฉุกเฉิน อัตรโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายชาตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงพยาบาลมีการปลอมเเปลงเอกสาร ซึ่งเป็นใบเสร็จค่าอาหารที่ไม่เกิดขึ้นจริง จำนวน 400 บาทอีกด้วย ถือเป็นความผิด ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 73 ว่าด้วยสถานพยาบาลเเละบุคลากรจัดทำหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลเเละค่าบริการเอกสาร เเสดงการผลการตรวจโรค เเละผลการรักษา หรือเอกสารเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลที่เป็นเท็จ มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวิกฤตเช่นนั้น เเพทย์ควรคำนึงถึงชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน เพราะขณะนั้นน.ส.วาวายังมีชีวิตเเละตอบสนองได้ คาดว่าหากรักษาทันท่วงทีจะสามารถช่วยชีวิตน.ส.วาวาได้ รวมทั้งกรณีทำใบเสร็จปลอมนั้น ทางโรงพยาบาลพยายามมาพูดคุยขอเคลียร์ เเละจะคืนเงินให้ เเต่ญาติของน.ส.วาวาไม่รับ ยืนยันจะเอาผิดเเละเรื่องนี้ได้ฟ้องศาลเเพ่งไปเเล้วด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ขณะที่ด้านคดีนั้น ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ผู้ต้องหาทั้ง 25 คน จะทยอยเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อรับทราบข้อหา ไม่ว่าจะเป็นความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด
ขณะที่ พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า คดีนี้ใกล้จะสรุปผลการดำเนินคดีได้แล้ว โดยในวันนี้ได้นัดหมายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าสอบสวนปากคำถึงผลการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน
พ.ต.อ.นำเกียรติ กล่าวอีกว่า และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหาได้ โดยจะมีการหารือกับพนักงานอัยการ เพื่อกำหนดวันนัดหมายในการออกหมายเรียกอีกครั้ง