เจ้าของโรงแรม ย่านถนนข้าวสาร เปิดใจสุดช้ำ ผ่านเว็บไซต์พันทิบ โอด เหลือเงินก้อนสุดท้าย 2 ปี ที่ไร้คนมาพัก ขายทรัพย์สินแทบหมดที่มี เปิดเหมือนไม่ได้เปิด

วานนี้ (25 พฤษภาคม) สมาชิกเว็บไซต์พันทิบรายหนึ่ง ได้ตั้งกระทู้ลงในเว็บไซต์ ว่า “ทำอย่างไรเหลือเงินสดก้อนสุดท้ายแล้ว” ซึ่งผู้ตั้งกระทู้เปิดเผยว่า ตนนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาด 25 ห้องพักย่านข้าวสาร 2 ปีแล้ว ที่ไร้คนมาพัก เปิดเหมือนไม่ได้เปิด เหลือพนักงานเพียง 2 คน เหลือเงินเพียงก้อนสุดท้าย โดยมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้

“ผมทำธุรกิจโรงแรมขนาด 25 ห้องแถวๆ ถ.ข้าวสาร ตอนนี้เปิดก็เหมือนปิดไม่มีคนพักมา 2 ปีแล้วเหลือพนักงาน 2 คนคอยเฝ้าและทำความสะอาดเล็กๆน้อย จนมาถึงตอนนี้ผมหมดเงินที่มีและที่คิดว่าจะหาได้มาหมดแล้วจนปัญญา จะปิดเต็มรูปแบบก็ติดที่เป็นที่เช่ากับหน่วยงานรัฐ ทำให้ไม่สามารถปิดได้

ไม่รู้จะเป็นไง อยากจะตายก็ตายไม่ได้ เพราะสิ่งที่ลงทุนไปก็จะละลายเป็นศูนย์ มีภาระผูกพันธ์กับคนข้างหลัง เพราะเงินลงทุนก็มาจากต้นทุนเดิมที่บ้านทิ้งไว้ให้ คือตอนก่อนหน้าก็คิดว่ายังไหว จำนำทุกสิ่งอย่างของมีค่าไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะเป็นไง รถยนต์ที่ขายได้ขายไปหมดแล้วตอนนี้ขับรถกระบะเก่าๆ คันหนึ่งอยู่

ขอเล่าเพิ่มเติมผมมีส่วนที่เป็นหนี้สินทั้งหมด 6-7 ล้านบาท ทรัพย์สินในรูปอสังหาริมทรัพย์รวมประมาณ 60 ล้านบาท (แต่มันไม่ใช่เงินสดบางส่วนเป็นกรรมสิทธิการเช่า ประกาศขายสิทธิและก็ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินเปล่ายังไม่มีใครสนใจ) รายจ่ายต่อเดือนก็รวมได้ 1-1.25 แสน/เดือน (ค่าเช่า,ค่าน้ำไฟ, พนักงานและที่สำคัญค่าดอกเบี้ยธนาคารและนอกระบบ) รายรับ ผมมีจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรงแรมประมาณ 0.75 แสนบาท/เดือน คือเฉลี่ยติดลบ ประมาณ 7-8 หมื่นบาท อันนี้ยังมี fix cost รายปีเช่น ค่าตรวจบัญชี ค่าประกัน ค่าภาษี และอื่นๆ

เอาเป็นตอนนี้จนปัญญามาถึงปลายทาง มันเหมือนโดนขึงคอกับไม้ในแต่ละเดือนก็เหมือนโดนขันเชือกให้มันแน่นรัดคอไปเรื่อยๆ จนผมคิดว่าปลายทางแล้ว ส่วนหนึ่งก็คิดไปเรื่อยหนีไปบวชทิ้งปัญหา แต่พอมาคิดก็ไม่ได้เพราะคนรู้ปัญหาก็ผมคนเดียวยังตัดใจไม่ได้ ตอบไม่ได้ทำอย่างไรอึดอัด ผมเชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบผม แล้วแต่ความหนักเบาของปัญหา

จะถามว่าไปบนให้ช่วยขายที่ก็บนบานศาลกล่าวมาหมด ถือศีลสวดมนต์นั่งสมาธิก็ทำมาครบ ถามว่าจัดการเรื่องธุรกิจ ผมก็ทำเต็มที่ (ในความเห็นผม) ในโอกาสที่ทำได้แล้ว ที่จริงกระทู้ผม มันคงคล้ายๆคนอื่น ทุกข์คล้ายๆกันบางทีเรามองคนอื่นทุกข์มากกว่าด้วยซ้ำแต่สำหรับผมมันเกินไปแล้วจริง ปัจจุบันอายุ 54 ปีเหนื่อยที่จะสู้ต่อ ไม่มีเงินเก็บ”

หลักจากมีการตั้งกระทู้ดังกล่าวออกไป มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจกับเจ้าของกรพทู้พอสมควร ทั้งยังใหคำแนะนำเพื่อหาทางออกให้กับเจ้าของกระทู้รายดังกล่าว อาทิ ให้ลองคุยกับธนาคารดู และเปลี่ยนหนี้นอกระบบให้เข้าไปอยู่ในธนาคาร ผ่อนชำระหนี้ไป หรือาจจะขายทรัพย์สินที่มี และบางรายได้แนะนำให้เปิดบริการห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า 24 ชั่วโมง หรือเปิดซักรีดด้วย เพื่อผ่อนปรนสถานการณ์ บ้างก็มองว่าควรจะเปิดให้เช่าพักแบบราย 10-15 วัน เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน