โฆษก พปชร. ยัน ส.ส.รัฐบาล ฉีด ซิโนแวค เหมือนฝ่ายค้าน ซัด ปล่อยเฟกนิวส์เอง “ทิพานัน”บี้ “หน.พรรรก้าวไกล” สอบส.ส.ปั่นกระแสมาตรฐานฉีดวัคซีน หากเมินเข้าข่ายผิดข้อบังคับจริยธรรมส.ส.-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษก พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวิตข้อความระบุว่า ‘ส.ส. พลังประชารัฐ และ ส.ส. รัฐบาลได้ฉีดแอสตราเซเนก้า เจ้าหน้าที่จะถามส.ส.ก่อนว่า เป็นส.ส.พรรคไหน ถ้าเป็นพรรคฝ่ายค้าน เจอซิโนแวคครับ” ว่า ข้อความดังกล่าวบิดเบือนจากความเป็นจริง พร้อมยืนยันว่า ส.ส. พรรคพปชร.ได้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และตนก็ได้ฉีดวัคซีนของซิโนแวค เป็นมาตรฐานเดียวกับส.ส. คนอื่น ไม่มีใครหรือเจ้าหน้าที่คนใด มาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายว่าเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล

“นายประเสริฐพงษ์ อย่าใช้ประเด็นวัคซีน มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือทำให้เป็นวัคซีนการเมือง ยิ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยิ่งต้องสื่อสารตามข้อเท็จจริง ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่ควรจะช่วยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้โดยเร็ว ไม่ใช่ทำให้เกิดความสับสน แตกแยก สื่อสารบิดเบือน ปล่อยข่าวปลอม”

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า เป็นการสร้างประเด็นหวังกลบกระแสที่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ไม่พอใจที่ ส.ส.พรรคดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าฉีดไปด่าไป พยายามปลุกกระแสต่อต้านวัคซีนที่รัฐบาลจัดหา เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการทำลายรัฐบาล แต่สุดท้ายก็ฉีดวัคซีนเพราะรู้ว่าไม่อันตราย จึงต้องสร้างเรื่องมาแก้เกี้ยวเพราะเกรงจะกระทบต่อฐานเสียง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตรวจสอบพฤติกรรม และมีบทลงโทษนายประเสริฐพงษ์ อย่างเร่งด่วน และให้ขอโทษบุคลากรทางการแพทย์ ต่อการสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม ใช้วัคซีนเป็นเกมทางการเมืองทำลายฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่ไม่มีข้อมูลหลักฐานที่น่าเชื่อถือ และไม่ใช่ครั้งแรกที่ ส.ส. ของพรรคนี้มีลักษณะปั้นน้ำเป็นตัว เป็นเด็กเลี้ยงแกะ เข้าข่ายสร้างเรื่องโกหกประชาชน และที่สำคัญที่รับไม่ได้ก็คือ ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนักอย่างไม่เป็นธรรมว่าพวกเลือกปฏิบัติ สองมาตรฐานระหว่างส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล กับส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน

“หากนายพิธาเพิกเฉย ปล่อยให้ ส.ส. กระทำการที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จและฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 12 ที่ต้องไม่ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใดหรือนำเอาความเท็จมาแสดง จากการที่ส.ส.ดังกล่าวใส่ร้ายว่ามีการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ทำอะไร ไม่ตรวจสอบ ไม่มีบทลงโทษ และไม่ขอโทษ นายพิธาในฐานะหัวหน้าพรรคก็ต้องยอมรับว่าประชาชนจะมองเห็นถึงมาตรฐานที่ตกต่ำของพรรค อาจยิ่งตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ของพรรคเด็กเลี้ยงแกะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน