สธ.ขอบคุณอายุรแพทย์ 4 สาขา 144 คน ช่วยงานดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ระดมพยาบาลไอซียูทั่วประเทศร่วมด้วย “หมอธงชัย” เสียงสะอื้น รับวิกฤตจริง เตียงไม่พอ ขอโทษและขอบคุณที่มาช่วยผู้ป่วยโควิด

วันที่ 1 ก.ค.2564 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ และ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติงานของอายุรแพทย์ และแพทย์เวชบำบัดวิกฤตสนับสนุนภารกิจ รพ.สนาม โดยมีอายุรแพทย์ 4 สาขาจบใหม่ ได้แก่ อายุรแพทย์ทั่วไป อายุรแพทย์โรคปอด อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ และแพทย์เวชบำบัดวิกฤตเข้าร่วม จำนวน 144 คน

นพ.สุระ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ สถานการณ์วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดครึ่งหมื่น เสียชีวิตครึ่งร้อย สถานการณ์เตียงไอซียูไม่พอ ไม่สามารถรับคนไข้สีแดงไปนอนได้ ต้องขยายเตียงไอซียู ซึ่งจะมีการเปิดเพิ่มที่ รพ.ธรรมศาสตร์ รพ.รามาธิบดี รพ.วชิรพยาบาล และรพ.พลังแผ่นดินของ รพ.มงกุฎวัฒนะ และต้องการบุคลากรแพทย์ พยาบาล มาปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยใน กทม.และปริมณฑล กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดแพทย์และพยาบาลไอซียูมาสนับสนุน

โดยในส่วนของแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขหารือกับแพทยสภา และโรงเรียนแพทย์ที่ฝึกแพทย์ 4 สาขาดังกล่าวที่เป็นสายหลักในการทำงานห้องไอซียูได้ จึงเชิญแพทย์เชี่ยวชาญทั้ง 4 สาขาที่เพิ่งจบมาอบรมในวันนี้จำนวน 144 คน เพื่อชี้แจงว่าต้องส่งไปทำงานในจุดที่มีการระบาดของคนไข้มากขึ้น แพทย์เหล่านี้ไม่ใช่แพทย์เพิ่งจบใหม่ แต่จบมาหลายปีแล้วมาเรียนต่อ 3-5 ปีตามหลักสูตร เพื่อดูแลคนไข้ที่ซับซ้อนมากกว่าปกติ เมื่อจบแล้วก็เป็นแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และผ่านการดูแลคนไข้โควิดมาแล้ว

อายุรแพทย์ 4 สาขา 144 คน ช่วยงานดูแลผู้ป่วยโควิด 19

อายุรแพทย์ 4 สาขา 144 คน ช่วยงานดูแลผู้ป่วยโควิด 19

นพ.สุระกล่าวว่า แพทย์ในสังกัดเขตสุขภาพที่ 4 , 5 ,6 และ 12 จะกลับไปพื้นที่ตนเอง เนื่องจาก 4 เขตดังกล่าวมีการติดเชื้อจำนวนมาก ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 4 คือ นนทบุรี ปทุมธานี เขตสุขภาพที่ 5 นครปฐม สมุทรสาคร เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี สมุทรปราการ เขตสุขภาพที่ 12 คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา

ส่วนแพทย์ที่มาจากเขตสุขภาพอื่นที่เหลือ 69 คนจะส่งตัวไปปฏิบัติงานยังห้องไอซียู 4 แห่งที่จะเปิดเพิ่ม และถ้าเหลือจากนี้จะส่งไปช่วย รพ.บุษราคัมเพิ่มเติม ทั้งนี้ จะให้ปฏิบัติภารกิจประมาณ 1 เดือนคือกรกฎาคมก่อน และประเมินสถานการณ์ว่าต้องอยู่ช่วยปฏิบัติหน้าที่ต่อหรือไม่ ถ้าดีขึ้นก็ส่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ฐานที่เดิมต่อไป

“วันนี้วันสำคัญที่สุดวันหนึ่ง เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การทำงาน กระทรวงสาธารณสุข ต้องขอแรงความร่วมมือแพทย์ทั้ง 4 สาขาช่วยปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน ถือเป็นการรวมพลอัศวินเสื้อกาวน์มือดีของกระทรวงมาช่วยปฏิบัติงาน ซึ่งวันนี้ในการประชุมได้มีการให้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะเราไม่อยากบังคับให้ทำงาน อยากให้ทำด้วยความสมัครใจ เและเห็นปัญหาร่วมกับเราว่าตอนนี้อยู่ในภาวะวิกฤต ถ้าเราไม่ช่วยเหลือคนไข้ การระบาดก็จะกลับไปต่างจังหวัดถ้าเราคุม กทม.ไม่ได้” นพ.สุระกล่าว

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.สุระกล่าวว่า สำหรับการส่งมาปฏิบัติงานนั้น ได้ออกเป็นหนังสือส่งตัวไปปฏิบัติราชการที่ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่อไม่ให้แพทย์ต้องเสียสิทธิรับค่าตอบแทนต่างๆ โดยสามารถเบิกค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก จาก รพ.พระนั่งเกล้า ซึ่งจะมีการจัดระบบมาดูแล ส่วนค่าเวรจะรับจากหน่วยงานปลายทางที่ไปปฏิบัติ ซึ่งจะต้องได้มากกว่าหรือเท่ากับที่กระทรวงสาธารณสุขให้ โดยการปฏิบัติงานจะขึ้นเวรเป็นผลัด ผลัดละ 8 ชั่วโมงต่อวัน และ 1 สัปดาห์พัก 2 วัน แต่ขึ้นกับพื้นที่

หากจำเป็นอาจขอให้ช่วยขึ้นผลัดนอกเวลาราชการ หากสถานการณ์คนไข้มีมาก และหน่วยที่ตั้งเดิมไม่สามารถจัดคนมาได้ อาจต้องขอร้องกัน ส่วนพยาบาลไอซียูจะดูตามความต้องการของเตียงว่าต้องการพยาบาลไอซียูเท่าไร และจะระดมจากโรงพยาบาลทุกจังหวัด โดยเขตสุขภาพจะรวบรวมและจัดส่งมาเพื่อจัดสรรลงไปปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนการดูแลบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มนี้ เรามีการจัดฉีดวัคซีนโควิด-19 มาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนประกันก็ทำให้ และอาจจะดูเพิ่มเติมว่ามีใครยังไม่มีประกันก็จะช่วยดำเนินการ

ด้านนพ.ธงชัย กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือและสะอื้นเล็กน้อยตอนหนึ่งว่า ต้องขอโทษและขอบคุณแพทย์ที่มาช่วยกันวันนี้ ต้องเรียนว่า กทม.และปริมณฑลสีแดงวิกฤตจริงๆ มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งประเทศไทยคงไม่อยากเหมือนยุโรปเมื่อปีที่แล้ว ที่ไม่มีการขยายเตียง ให้ผู้ป่วยไปนอนที่บ้าน แต่วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่อย่างนั้น ขอให้ทำงานยึดตามพระบิดา ฝากดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ.

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ.

“ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือ หลายคนคิดว่าทำไมต้องเป็นตัวเอง แต่ต้องขอความร่วมมือจริงๆ ซึ่งคณบดีแพทย์ต่างๆ ก็เห็นว่าคุ้นเคยกับการเรียนที่ กทม. และเป็นมือดีที่สุด ซึ่งปีนี้ยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ที่เราคุมยาก กระจายไปทั่วหมด วันนี้เอาไม่อยู่จริงๆ เลยต้องเกณฑ์พวกเรา ต้องขอบคุณจริงๆ และพร้อมขอโทษด้วย” นพ.ธงชัยกล่าว

นพ.ธงชัยกล่าวว่า ก่อนหน้าเราระดมอาสาสมัครไปทำ รพ.บุษราคัม ดูแลผู้ป่วยสีเหลืองขนาด 2 พันเตียง จะขยาย 1.5 พันเตียงเป็น 3.5 พันเตียง ถือเป็นประวัติศาสตร์ของพวกเรา ชั่วชีวิตนี้เราไม่เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตอนนี้กำลังผ่านสงครามโรคที่ทั่วโลกกำลังสู้อยู่ ใครก็หลุดพ้นไม่ได้

ทุกคนกำลังต่อสู้กันหมด น้องๆ เป็นกำลังสำคัญทั้งต่างจังหวัด และกทม.ก็คือคนไทย เชื้อชาติไหนก็อยู่ในแผ่นดินไทยเช่นกัน ไม่ดูแลก็ไม่รอดเช่นกัน ทุกคนในแผ่นดินไทยต้องรอดหมด ทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้ ถือเป็นครั้งแรกที่ระดมทำกันอย่างนี้ ถ้าไม่ทำคงเจอคนนอนตายที่บ้าน และไม่มีที่ไป ประเทศไทยไม่ควรเป็นเช่นนั้น ที่จะต้องเลือกว่าใครจะอยู่ใครจะไป ไม่อยากเห็นภาพนั้น

นพ.คมชาญ อุตมวาทิน อายุรแพทย์ทั่วไป รพ.อ่างทอง หนึ่งในแพทย์ที่ต้องใช้ทุนและได้รับภารกิจให้มาช่วยเหลือ กล่าวว่า แพทย์ทุกคนยินดีปฏิบัติ เพราะเคยปฏิบัติหน้าที่และเข้าใจสถานการณ์ ยอมรับว่าภาระงานครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง และยังมีคนไข้อื่นที่ไม่ได้เป็นโควิดที่ต้องรับผิดชอบ อยากให้ต้นสังกัดเร่งจัดหาวัคซีนเข็ม 3 ที่มีประสิทธิภาพมาฉีดให้แพทย์ที่ปฏิบัติงานด่านหน้าโดยเร็ว แม้จะได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว แต่แพทย์พยาบาลส่วนใหญ่ก็ยังติดเชื้อ การปฏิบัติหน้าที่ทำให้แพทย์ พยาบาลทุกคนไม่กล้าไปเจอคนในครอบครัว เพราะกลัวจะเป็นการนำเชื้อไปสู่ครอบครัว

ทำให้หลังปฏิบัติหน้าที่แม้จะได้หยุดพักก็ไม่ได้กลับบ้าน อยากให้ต้นสังกัดพิจารณาตามข้อเสนอแนะ และข้อเรียกร้องของทั้งราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยที่จะเร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะวัคซีนทุกวันนี้มีประสิทธิลดป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แต่อยากให้ครอบคลุมถึงการป้องกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน