กทม.เตรียมเร่งเจรจาจัดซื้อ ‘โมเดอร์นา’ ฉีดให้คนกรุง แจงปมดราม่าขัดแย้งสธ. พรุ่งนี้เข้าไปฉีดวัคซีนให้ได้ 221 วัด ไม่ใช่แค่พระ-สัปเหร่อ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร.ต.อ. พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. พร้อมด้วย นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย และผู้บริหารกรุงเทพฯ แถลงข่าวสรุปการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านระบบ Cisco Webex Meetings

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า สถาการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ถือว่าค่อนข้างวิกฤตตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. โดยช่วง 1-2 วันนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 3,000 กว่ารายกทม.พยายามกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด โดยมาตรการล็อกดาวน์ ยังถือว่ามีความจำเป็น ตามหลักวิชาการและหลักการแพทย์ เพื่อลดการเคลื่อนที่ของประชาชน ลดการติดเชื้อ

ร.ต.อ.พงศกร กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลแคมป์คนงาน แม้จะสิ้นสุดมาตรการปิดแคมป์ไปแล้ว จะต้องมีมาตรการ Bubble and Seal เช่นเดิมลดการให้คนงานออกไปสัมผัสกับคนภายนอก เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดมากขึ้น หากเกิดการระบาดก็ต้องหารือศบค. เพื่อออกมาตรการในภาพรวม

ส่วนการฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง ไล่ตามลำดับคือ บุคลากรทางการแพทย์ มูลนิธิ พระ และสัปเหร่อ ซึ่งบางส่วนได้ฉีดแล้ว กทม.พยายามประชาสัมพันธ์ และวันที่ 30 ก.ค. ทางกทม.จะเริ่มเข้าไปประชาสัมพันธ์ เพื่อเข้าไปฉีดวัคซีนให้ได้ 221 วัด และเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งไม่ใช่แค่สัปเหร่อ แต่เป็นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาศพ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมในศาสนาอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังพยายามประชาสัมพันธ์ไปยังวัดต่าง ๆ กรณีการเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้วัดส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้าใจ และพร้อมที่จะดำเนินการเผาศพ

“ส่วนกทม.และสธ.มีปัญหากันหรือไม่นั้น ยืนยันว่ากทม.และสธ.ทำงานร่วมกันมาตลอด กรณีที่มีข่าว ทะเลาะกับสธ.ทางกทม.ชี้แจงไปแล้วว่า กทม.ได้รับวัคซีนจำนวนเท่าไร โดยกทม.ได้รับการจัดสรรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า ในระบบหมอพร้อม 1,220,000 โดส เป็นกระบวนการที่ทำร่วมกับสธ.”

ดังนั้นจะมียอดลงทะเบียนของทั้งสองหน่วยงาน ในจำนวนนี้ กว่า 30,000โดส ใช้ในการฉีด ผู้ป่วยติดเตียง ติดบ้านและได้รับวัคซีน จากโครงการไทยร่วมใจเพียง 680,000 โดส และใน1-2 วันนี้จะมีการตัดวัคซีนไปฉีดผู้ป่วยในชุมชน อีกประมาณ 30,000 โดส ตรงนี้เป็นตัวเลขทั้งหมดที่ได้รับ

ส่วนจำนวน 700,000 โดสคืออะไร ก็ต้องบอกว่า ถ้าเอาตัวเลขเป๊ะๆ ที่ได้รับจากโครงการไทยร่วมใจ อยู่ที่ 680,000 โดส ซึ่งทุกครั้งที่จะนำวัคซีนจากโครงการไทยร่วมใจไปใช้จะต้องมีการขอมติจากศบค.ด้วยว่าจะให้ฉีดเท่าไรอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กทม. จะจัดซื้อวัคซีนเอง ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า สธ.แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ วัคซีนที่รัฐจัดหา และวัคซีนทางเลือก กทม.มีความพร้อมและได้จัดซื้อวัคซีนทางเลือกแล้วบางส่วน อย่างซิโนฟาร์ม ใช้ในการฉีดในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง และอยู่ระหว่างการพูดคุยในเรื่องการจัดซื้อโมเดอร์นา ในลำดับถัดไป ส่วนการกระจายวัคซีน คงไม่มีการปรับแผน

โดยกทม.ทำตามนโยบายมาตลอด เร่งฉีดกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรค และผู้ที่มีความเสี่ยง และมีเป้าหมายฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ซึ่งศักยภาพของศูนย์ฉีดได้ 7-8 หมื่นต่อวัน หากได้วัคซีนเพิ่มเราก็มีศักยภาพที่จะฉีดเพิ่มได้

“ส่วนกลุ่มที่ไปรอฉีดสถานีกลางบางซื่อจำนวนมากจนเกิดภาพความแออัด ในส่วนนี้กทม.สามารถเข้าไปช่วยได้หรือไม่นั้น กทม.เป็นแค่หนึ่งคณะกรรมการกระจายวัคซีน ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจว่าใครจะได้รับวัคซีนเท่าไร กทม.พร้อมให้ความช่วยเหลือในการฉีดวัคซีนในสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งมีภาพความแออัด และอาจจะมีความเสี่ยงต่อการระบาด แต่อยู่ที่วิจารณญาณของสธ. ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดในการควบคุมการระบาด และรู้ว่าการกระจายวัคซีนและการบริหารจัดการควรเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด กทม.คงไปสั่งแทนไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ”ร.ต.อ.พงศกรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน