ตร. ขอหมายค้น แคมป์คนงานร้าง พบผู้ต้องหา 3 ราย ประทัด-ระเบิด รวบเยาวชน 2 รายก่อเหตุเผา-ทุบป้อมตำรวจกลางดึก 22 ก.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ก.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 กลุ่มที่ทำการนัดหมายรวมตัวกันในห้วง 25 ก.ย. ดังนี้ กลุ่มทะลุฟ้า ได้นัดหมายเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป รวมตัวที่แยกยมราชเคลื่อนตัวมาทำเนียบรัฐบาล และ กลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายรวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง
บช.น. ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 31 ส.ค.2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้ตามสถานการณ์การข่าวและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการชุมนุมในวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมาของกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดง เวลา 19.30-21.30 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเรียบร้อยได้มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว พลุไฟ ระเบิดต่าง ๆ เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ๆ ทั้งหน้ากรมดุริยางค์ทหารและฝั่งถนนมิตรไมตรี ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ก่อเหตุยุติการกระทำและให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ยอมเชื่อฟังยังคงก่อความวุ่นวายต่อ
เวลา 22.20-22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 14.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ 339/2564 ลงวันที่ 24 ก.ย.2564 เข้าตรวจค้นแคมป์ที่พักคนงานร้าง ถ.ดินแดง ใกล้สามเหลี่ยมดินแดง จากการตรวจสอบพบบุคคล 14 คน พร้อมสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศษระเบิด ปิงปอง ลูกแก้ว ถังน้ำมัน เศษแก้ว โล่พลาสติก หมวกกันน็ฮก
โดยได้จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และหนังสติ๊กจำนวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และทำการสืบสวนขยายผลพบว่า เยาวชนอีก 2 คน จาก 14 คน ให้การว่า ไปร่วมเผาและทุบทำลายป้อมตำรวจหลายจุดในช่วงกลางดึกของวันที่ 22-23 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนคนที่เหลือทำการบันทึกประวัติเอาไว้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ และ สน.พญาไท และแจ้งข้อหากล่าวหาแก่ ผู้ต้องหาว่าร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคน ขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และออกนอกเคหสถานในเวลา ห้ามอีกส่วนหนึ่ง โดยในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ตร. ขอหมายค้น แคมป์คนงานร้าง พบผู้ต้องหา 3 ราย ประทัด-ระเบิด รวบเยาวชน 2 ราย
“อย่างไรก็ตาม บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย กรณีเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองถูกออกหมายเรียกอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วยเช่นกัน ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมาจนถึง ปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 231 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 828 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 583 คน” รองผบช.น. กล่าว
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้าจะมีหารสกัดกั้นเส้นทางนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีการรวมตัวแยกยมราช เคลื่อนมาแยกนางเลิ้ง มาทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ตำรวจไม่ยอมให้เข้ามาบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด ส่วนกลุ่มทะลุแก๊สปะปนผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นนั้น พยายามรักษาคงามสงบเรียบร้อยและประสานงานกลุ่มผู้ชุมนุมให้ทำการยุติการชุมนุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุความรุนแรง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า แต่เดิมเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนจะมารวมจากดินแดงที่บริเวณดังกล่าว มีความเป็นไปได้ ส่วนติดตามตัวบุคคลทำลายป้อมตำรวจทั้งหมดแล้ว 10 กว่าคน ต้องดำเนินการจับกุมต่อเรื่อย ๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีหมายจับอีกมาหลายราย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับสถานที่ใช้เก็บอาวุธ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องสถานที่ต่าง ๆ ช่วยตรวจตราอย่าให้กลุ่มผู้ก่อเหตุวุ่นวายเก็บวัตถุอุปกรณ์ ไม่เช่นนั้นถูกดำเนินคดี ส่วนภาพรวมมีการรวมตัวหลายจังหวัด มีการดำเนินคดีแล้ว 800 คดี
