จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อ้างว่าตนเองถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่สลากฯชุดดังกล่าวหายไป ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ เป็นผู้นำสลากฯไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากฯ จนเกิดการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่อมาต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ซื้อและถูกรางวัลที่ 1 จนเป็นข่าวฮือฮาและเป็นที่ถกเถียงของคนในสังคม โดยเฉพาะชาวจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ในขณะนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมงาน นำ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ อายุ 62 ปี เข้าพบ พ.ต.ต.ชัยวัชริศ สิงห์สังข์ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้นายปรีชา รวมทั้งน.ส.พัชริดา พรมตา อายุ 53 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่ขายลอตเตอรี่ให้กับนางรัตนาภรณ์ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากรอทำข่าว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ นำโดย พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ สว.กก.5 บก.ป.เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

สำหรับหลักฐานที่นายษิทรา นำมามอบให้พนักงานสอบสวน ประกอบด้วย ภาพถ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 ภาพถ่ายขณะที่นายปรีชา นางรัตนาภรณ์ และน.ส.พัชริดา ไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 รวมทั้งแผ่นซีดีที่ทั้ง 3 คนไปออกรายการดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ นายษิทรา ทนายความได้รับมอบอำนาจจาก ร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยว่า เรื่องแรกคือการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ และ น.ส.พัชริดา พรมตา ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายเกินราคา สำหรับเรื่องนี้ที่จริงแล้วความมาเกิดขึ้นต่อพนักงานสอบสวนตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆ

ดังนั้น วันนี้เราจึงนำหลักฐานภาพถ่ายสลากฯ รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ที่ผู้ค้า ขายให้ร.ต.ท.จรูญ ในราคา 700 บาท ตกใบละ 140 บาท ซึ่งถือว่าขายในราคาที่เกินไปเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีเอกสารคำรับสารภาพที่ไปออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ว่าได้ขายเกินราคากฎหมายกำหนดจริง และในวันนี้อยากเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าทั้งสองคนนี้ไปซื้อสลากฯ มาจากใคร ทั้งยี่ปั๊วหรือซาปั๊วต่างๆ ว่าที่ส่งมาให้นั้นขายเกินราคามาอยู่แล้วหรือไม่

เรื่องที่สอง คือ การแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อครูปรีชา ใคร่ครวญ ที่มาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 2 พ.ย. อ้างว่าตนเองทำสลากฯ หาย ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะทางคุณลุงจรูญ ได้ยืนยันมาตลอดว่าซื้อมาจากแม่ค้า ฉะนั้นก็เท่ากับว่าการที่ครูปรีชามาแจ้งให้เจ้าหน้าที่จดแจ้งข้อความนั้น เป็นเรื่องเท็จ วันนี้จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับครูปรีชา ซึ่งเบื้องต้นจะขออ่านดูสำนวนที่ครูปรีชามาแจ้งความอีกครั้งหนึ่ง และหากพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ก็จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งจะต่างกรรมต่างวาระกัน ในส่วนของคนอื่นๆ จะเข้ามาร่วมขบวนการอย่างไร ขอให้ทางเรารวบรวมหลักฐานก่อน หากมีการทำเป็นขบวนการที่เกิน 5 คน ก็จะแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรเพิ่ม เพื่อให้ได้รับบทลงโทษทุกคน

“เรื่องที่สาม คือ ฝ่ายของครูปรีชา บอกว่าได้มีการส่งข้อความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ในการซื้อสลากฯ แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้โทรศัพท์แทน ดังนั้น วันนี้จึงมายื่นหนังสือให้กับพนักงานสอบสวน ขอให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของครูปรีชาและนางรัตนาภรณ์ ที่สนทนากันระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน ว่าได้มีการโทร.คุยกันจริงหรือไม่

อีกประเด็น คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง มีการออกไปให้ข่าวตั้งแต่ต้นว่าคุณลุงจรูญ จำไม่ได้ว่าไปซื้อสลากฯ ที่ไหน ยังไง ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยให้ข่าวกับสื่อหลายครั้ง และเรื่องนี้มีการพาลุงจรูญ ไปคุยกันที่บ้านพักของนายตำรวจด้วย ซึ่งจะดูว่าเหมาะสมหรือสมควรหรือไม่”

หลังจากนี้ตนและครอบครัวของคุณลุงจรูญ จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอให้ท่านลงมาสอบหาข้อเท็จจริง ว่าหากเรื่องนี้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผิดจริง จะผิดวินัยหรือไม่ คาดว่าพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เวลาบ่ายโมง จะไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมั่นใจในพยานและหลักฐานมาตั้งแต่ที่ได้ข้อมูลจากเฟซบุ๊กของครูปรีชาแล้ว ซึ่งเขาได้ยอมรับข้อเท็จจริงอะไรต่างๆ รวมทั้งหลักฐานที่ไปออกทีวีรายการต่างๆ ด้วย พบว่าการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้ง ไม่ตรงกัน ซึ่งก็ได้ให้ทีมงานรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเก็บเอาไว้ เพื่อใช้ในการขึ้นศาลแล้ว

อีกหนึ่งประเด็น คือ วันที่ครูปรีชามาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน บอกว่าหลังจากซื้อลอตเตอรี่แล้วก็ได้เดินทางไปรับลูกที่โรงเรียนวิสุทธรังษี ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าม่วง หากเป็นความจริง เหตุของคดีอาจจะเกิดที่ สภ.ท่าม่วง ก็ได้ เพราะครูปรีชา บอกว่าจำไม่ได้ว่าสลากฯ หล่นหายที่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการ

ส่วนเรื่องการอายัดเงิน ขอเรียนตามตรงว่าพนักงานสอบสวนยังไม่มีการสอบสวนให้เข้าสู่กระบวนการ ซึ่งถือว่าน่าจะผิด แต่จากการที่ได้พูดคุยกับลุงจรูญแล้ว คุณลุงบอกว่าไม่จำเป็นต้องรีบใช้เงิน เพราะหลังจากเสร็จคดี คุณลุงก็คงจะได้เงินคืนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถาม ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ว่า มาถึงวันนี้จำรูปพรรณสัณฐานของแม่ค้าขายลอตเตอรี่ได้หรือไม่ ร.ต.ท.จรูญได้ตอบย้ำว่า จำไม่ได้ และคนที่มากล่าวอ้างว่าเป็นคนขาย ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช่หรือไม่ เพราะจำไม่ได้จริงๆ วันที่ไปซื้อ ไม่ได้มองหน้าแม่ค้าด้วยซ้ำ และก็ซื้อมาเพียงแค่ชุดเดียว โดยแม่ค้าเป็นคนหยิบให้ และในวันนั้นก็มีแม่ค้าตั้งแผงขายอยู่หลายแผง หลังจากซื้อเสร็จก็กลับบ้านทันที

ด้าน พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ สว.กก.5 บก.ป. กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้มาร่วมคลี่คลายคดี ซึ่งจะเร่งดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย และหากถึงวันนั้นคงจะแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง ส่วนข้อมูลรายละเอียด เบื้องต้นได้สอบสวนฝ่ายของคุณครูและคนขายสลากฯ แล้ว แต่รายละเอียดขอปิดเอาไว้ก่อน และขอให้เจ้าหน้าที่มีเวลาทำงานสักระยะก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน