นายศุภชัย ใจสมุทร โพสต์เฟซบุ๊กลั่น ความสำเร็จประเทศไทยควบคุมโควิดได้ดี เร่งเจรจาอังกฤษปลดไทยออกจากบัญชีแดง เดินทางได้ไม่ต้องกักตัว

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เบื้องหลังข่าวดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางการอังกฤษปลดรายชื่อประเทศไทยออกจาก “บัญชีแดง” แล้ว นี่ถือเป็นพัฒนาการด้านการควบคุมโรคโควิด – 19 ไปจนถึงการกระจายวัคซีนของประเทศไทย ซึ่งน่าพอใจจนนานาชาติยอมรับ ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ไทยยังอยู่ในบัญชีดังกล่าวนั้น จะทำให้ผู้ที่ไม่มีถิ่นพํานัก (นักเดินทางทั่วไป) ที่เดินทางจากประเทศไทยหรือผ่านประเทศไทยในรอบ 10 วันที่ผ่านมา จะไม่สามารถเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้

ในขณะที่ผู้ที่มีถิ่นพำนัก (ศึกษาต่อหรือทํางาน) ยังสามารถเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้ แต่จะต้องกักตัวในโรงแรมที่กําหนดเป็นระยะเวลา 10 วัน โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000-3,000 ปอนด์/ราย หรือประมาณ 89,000-135,000 บาท นี่คือภาพสะท้อนความกังวลที่มีต่อประเทศไทย

นายศุภชัย ระบุต่อว่า แต่แล้วความกลัว และความกังวลนั้น ก็ค่อยๆ หายไป เมื่อมีข่าวดี เพราะทุกอย่างมาคลี่คลายเอาเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทาง H.E. Mr. Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ได้มีโอกาสหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข รวมทั้งผู้บริหารอีกหลายท่าน ที่ได้ใช้เวลาอันมีค่าในการชี้แจงสถานการณ์การระบาดในประเทศไทย ไปจนถึงความคืบหน้าในการให้บริการวัคซีน ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้

สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ กำลังประสบผลสำเร็จรูปธรรม เรารับมือกับวิกฤติได้แล้ว ด้วยความรู้ ความสามารถ การตัดสินใจ และการลงมือทำของคนทำงานที่ช่วยกัน จนทำให้จำนวนผู้ป่วยรายวันลดน้อยลงเรื่อยๆ ยอดความสูญเสีย ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกนับเท่าตัว และการฉีดวัคซีน ที่พุ่งไปถึง 46-47 ล้านโดส (ปัจจุบันมากกว่า 55 ล้านโดส)

ข้อมูลเหล่านี้ สร้างความยอมรับให้กับทางอังกฤษ นำมาซึ่งการทบทวนมาตรการที่มีต่อประเทศไทย ไปจนถึงการปรับให้ไทยพ้นจาก Red List ในที่สุด แน่นอนว่าท่าทีของทางอังกฤษนั้น ได้สะท้อนความสำเร็จจากการลงมือทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจในการควบคุมโรคระบาดของไทย และเป็นเครื่องยืนยันความสามารถของกระทรวงสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี #ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินทางไปจากประเทศที่ได้รับการปลดบัญชีแดง ซึ่งมีการพิจารณาปลด 54 ประเทศ ผู้เดินทางต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสสมบูรณ์แบบอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทางเข้าประเทศสหราชอาณาจักร ที่สำคัญ วัคซีนที่ได้รับการอนุญาตมี 4 ยี่ห้อ ได้แก่ แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เท่านั้น

ในกรณีที่ฉีดวัคซีนทั้ง 4 ยี่ห้อที่รับรอง แต่ไม่ครบโดสสมบูรณ์แบบ หรือได้รับวัคซีนที่สหราชอาณาจักรไม่มีการรับรอง เช่น ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม สปุตนิก วี และอื่นๆ ผู้เดินทางดังกล่าวต้องเข้ารับการทดสอบผลโรคระบาดโควิด-19 เป็นจำนวน 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 วันก่อนเดินทางเข้าสหราชอาณาจักร หลังจากนั้นต้องถูกกักตัวที่บ้าน หรือโรงแรมเป็นเวลา 10 วัน โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000-3,000 ปอนด์/ราย หรือประมาณ 89,000-135,000 บาท พร้อมกับตรวจหาโรคระบาดโควิด-19 ในวันที่ 2 และ 8 หลังมาถึงสหราชอาณาจักร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน