กทม. เผย ขั้นตอนการเปิดเมือง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา กทม. ต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ย้ำผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงรายละเอียดของการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป เพื่อให้ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ควบคู่ไปกับการป้องกันโรคระบาดอย่างใกล้ชิด จึงได้มีการกำหนดมาตรการเปิดเมือง และข้อปฏิบัติต่างๆ (Standard Operation Procedures : SOPs) เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา ผู้ประกอบการ หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งครอบคลุมทั้งก่อนเดินทางมาในพื้นที่ จนถึงเดินทางออกนอกพื้นที่ดังนี้
ระยะที่ 1 ก่อนเดินทางถึงประเทศไทย ผู้เดินทางขอใบรับรองในการเดินทางเข้าประเทศทางช่องทางที่ราชการกำหนด มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน มีวีซ่าและประกันสุขภาพตามเกณฑ์ที่ราชการกำหนด ผลตรวจ COVID-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
ระยะที่ 2 เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย เปิดใช้งานแอปพลิเคชันที่ราชการกำหนด ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ที่โรงแรม หรือสถานที่ที่ราชการกำหนด เดินทางเข้าที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA โดยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA พักที่กทม.อย่างน้อย 1 คืน เพื่อรอผลการตรวจ RT-PCR
ระยะที่ 3 ก่อนเดินทางออกนอกกทม.หรือนอกราชอาณาจักร มีหลักฐานยืนยันว่าได้เข้าพักในกทม. มีหลักฐานยืนยันการได้รับวัคซีนครบโดส มีหลักฐานการตรวจ RT-PCR ที่ตรวจในประเทศไทยครั้งล่าสุด ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขจากประเทศต้นทางและปลายทาง รวมถึงที่ WHO กำหนด
นอกจากข้อปฏิบัติของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังได้กำหนด SOP สำหรับสถานประกอบการอีก 11 ข้อ สำหรับผู้ประกอบการ และพนักงานภาคบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานการท่องเที่ยวทางน้ำและทางเรือ มาตรฐานสำหรับมัคคุเทศก์และผู้ช่วยมัคคุเทศก์ มาตรฐานสำหรับการบริการสปาและนวดเพื่อสุขภาพ และอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข และปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และผู้ให้บริการ
ขณะนี้กทม.ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้กับประชาชนในพื้นที่แล้วมากกว่าร้อยละ 75 และจะฉีดให้ได้ร้อยละ 80 ก่อนที่จะเปิดประเทศ และสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ป่วยติดเชื้อต่ำกว่า 1,000 คน ติดต่อกัน และมีอัตราผู้ป่วยครองเตียงเพียงร้อยละ 31 ของจำนวนเตียงที่สามารถรองรับได้ ทำให้มีความพร้อมในการเปิดเมือง แต่ยังคงเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากที่สุดเพื่อให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกัน และยังคงรักษามาตรการป้องกันทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากการเปิดประเทศมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆไปตามสถานการณ์