ไทยพบโอมิครอนแล้ว 205 ราย เผยคลัสเตอร์ผัวเมียกาฬสินธุ์ นำเชื้อกระจายอุดรฯ ติด 22 ราย เสี่ยงสูงอีกกว่าร้อยคน ปีใหม่สั่ง สสจ.เกาะติดตรวจตราทำผิดระเบียบ

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 12/2564 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้อยู่ในพื้นที่ ออกตรวจความเรียบร้อย

ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แพ็กคู่กันไป หากพบกิจกรรมที่ทำผิดกฎระเบียบจากที่ขออนุญาตไว้ ต้องยกเลิกทันที โดยไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใครทั้งสิ้น เพราะถือว่าเราเปิดให้แล้ว ขอให้ร่วมมือตามระเบียบ เพื่อให้ทุกคนฉลองอย่างปลอดภัย

ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการออกตรวจตราคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK หากพบผลเป็นลบ ยังขอให้สังเกตอาการต่อเนื่อ และตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง พร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างและล้างมือ

เมื่อถามว่าพฤติกรรมใดน่ากังวลในช่วงปีใหม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รวมกลุ่มกันเป็นอันตรายที่สุด ชัดเจนด้วยการติดเชื้อโอมิครอนที่เดินทางมากจากต่างประเทศ เรารู้ต้นตอว่ามาจากไหน นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หากใครเดินทางไปกลับบ้าน ขอให้ตรวจ ATK ก่อนไปพบผู้อื่น ญาติพี่น้อง

อย่างกรณีสามี-ภรรยา จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมาจากยุโรปตรวจ RT-PCR ผ่านก็กลับกาฬสินธุ์ ต่อจากนั้นไปหาญาติ จ.อุดรธานี แล้วไม่ได้ตรวจซ้ำ ก็ไปแพร่เชื้อ 22 ราย ทั้งครอบครัว พนักงานร้านอาหาร และลูกค้าในร้าน รวมถึงผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมร้อยราย ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวสะสม 205 ราย

“นี่ไม่เกี่ยวกับพิษโอมิครอน เป็นการนำเชื้อโดยผู้ติดเชื้อให้คนอื่น ซึ่งเรามีคำแนะนำชัดเจน DMHTT ไม่ใช่ภาชนะร่วมกัน โดยเฉพาะถังน้ำแข็ง แก้วเหล้า แก้วเครื่องดื่ม รวมถึงฉีดวัคซีนให้ครบโดส ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่ลักลอบออกจากโรงแรมกักตัว นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงเพิ่มเติม แต่เป็นสิ่งที่ไม่ดี เนื่องจากเขาไม่ปฏิบัติตามมาตรการของไทย ไม่รอผลตรวจ RT-PCR แต่โชคดีที่เชื้อในระยะที่ไม่แพร่ให้ใคร แพทย์รายงานว่าความเสี่ยงน่าจะน้อย

ทั้งนี้ ขอให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้าไปดูแลโรงแรมที่รับทำระบบกักตัว หรือแซนด์บ็อกซ์ ให้เข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สบส.จะต้องเข้าไปดูโรงแรมที่กักตัวคนนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว หากทำเต็มที่แล้วแต่ยังเขายังมุดลงใต้ดินหลบหนีได้ จะว่าโรงแรมผิดเต็มที่ก็ไม่ได้ ก็ต้องกำกับให้เขาเพิ่มมาตรการสอดส่องดูแลตามที่ได้ขอมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน