ตำรวจตั้งทีมสอบซ้ำ น.อ.เมากร่าง จ่อขอศาลทหารพิจารณาเอาผิด มาตรา 112 บช.น.เตรียมรายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอออกหมายเรียก-หมายจับ

จากกรณีเหตุการณ์ชายหัวเกรียนอ้างเป็นทหารเรืออยู่ในอาการมึนเมาสุรา พูดจาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในร้านอาหารที่กรุงเทพฯ และใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งยังแอบอ้างชื่อพาดพิงไปยังบุคคลต่างๆ อีกทั้งเมื่อตำรวจเข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อมและห้ามปราม ชายคนดังกล่าวก็ยังพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรง และยังกล่าวด้วยว่าใหญ่คับประเทศ จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วสังคม และจากการตรวจสอบทราบว่าเป็นนายทหารเรือจริง

ต่อมา พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ โกนผมและเข้ารับการธำรงวินัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยต้นสังกัดเรียกตัวนายทหารผู้ก่อเหตุเข้ามารายงานตัวด่วน และให้สารวัตรทหารเรือควบคุมตัวนำไปเข้ารับการธำรงวินัย พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัย

จากนั้นวันที่ 7 ม.ค.65 พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 14/2565 เรื่อง ให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ โดยระบุว่าให้ปลด น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี ร.น. (พรรค นว.) ประจำ ฐท.สส.ออกจากราชการ เป็นนายทหาร กองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ สังกัด กพ.ทร. เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ สั่ง ณ วันที่ 7 ม.ค.2565

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ยื่นคำร้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 14 ขออนุมัติหมายจับ น.อ.อลงกรณ์ ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และหมิ่นประมาท

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.65 รายงานข่าวแจ้งว่า บก.น.5 รับแจ้งความร้องทุกข์จากประชาชนที่พบคลิปของ น.อ.อลงกรณ์ ไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย พื้นที่สน.คลองตัน มีความผิดเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บก.น.5 ทำเรื่องถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้รายงานต่อทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรณีการดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว โดยขณะนี้อยู่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนพิจารณาขอศาลทหารพิจารณาออกหมายเรียก หรือออกหมายจับกรณีดังกล่าวต่อไป

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน