ผบช.น. เผย เร่งตามตัวผู้ต้องหา 2 มูลนิธิกู้ภัย เปิดฉากซัดกันกลางเมือง จอดรถพยาบาล กระหน่ำยิงกว่า 30 นัด จ่อให้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่

จากกรณีเกิดเหตุอาสามูลนิธิเพชรเกษมทะเลาะวิวาทกับมูลนิธิร่วมกตัญญู บริเวณแยกพงษ์เพชร ถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. โดยพบว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงกว่า 30 นัด ก่อนจะขับรถหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : 2 มูลนิธิกู้ภัยดัง เปิดฉากซัดกันกลางเมือง จอดรถพยาบาล รัวกระสุนกว่า 30 นัด

วันที่ 14 ม.ค.2565 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.น. กล่าวถึงกรณีมูลนิธิทะเลาะวิวาทกัน ว่า สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม รับคดีไว้แล้วเนื่องจากเกิดเหตุพื้นที่หนึ่งและไปก่อเหตุอีกพื้นที่หนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี มีการกระทำความผิดทั้ง 2 ฝ่าย โดยทำร้ายร่างกายกันและใช้อาวุธปืนยิง

ผบช.น. เผย เร่งตามตัวผู้ต้องหา 2 มูลนิธิกู้ภัย เปิดฉากซัดกันกลางเมือง จอดรถพยาบาล กระหน่ำยิงกว่า 30 นัด

ผบช.น. เผย เร่งตามตัวผู้ต้องหา 2 มูลนิธิกู้ภัย เปิดฉากซัดกันกลางเมือง จอดรถพยาบาล กระหน่ำยิงกว่า 30 นัด

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางป้องกันจะหารือกับผู้บริหารมูลนิธิกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันอีก ข้อมูลเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายเคยเป็นมูลนิธิเดียวกันแต่แยกตัวออกไป กรณีการใช้อาวุธปืนและพกติดตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่อาจจะต้องให้ผู้บริหารมูลนิธิเอาผิด เช่น ให้ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อไป

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสียสละทำประโยชน์ให้สังคมจนได้รับการชมเชย แต่การที่มีเรื่องบาดหมางไม่ควรให้เกิดขึ้น จะต้องใช้การทำความเข้าใจกันหารือร่วมกับผู้บริหารของมูลนิธิเพื่อแก้ไข ทางตำรวจต้องตรวจสอบทุกเรื่องทั้งขออนุญาตรถฉุกเฉินต้องปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมายให้ถูกต้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน