เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความคดี 7 โจ๋รุมฆ่าชายพิการ เปิดเผยถึงเเนวทางการยื่นอุทธรณ์คดีเพื่อขอให้จำเลย ที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตั้งเเต่12-19ปีได้รับโทษหนักขึ้นว่า อ่านข่าว : ศาลสั่งจำคุก12-19ปี คดี7โจ๋ฆ่าชายพิการ แม่เตรียมเผาศพลูก-หลังได้รับความเป็นธรรม

จากคำพิพากษาเมื่อวานเป็นที่ชัดเจนว่าจำเลยทั้งหมดร่วมกระทำความผิดทุกคนตรงนี้เราไม่ติดใจเเล้ว เเต่เราติดใจประเด็นที่ศาลวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 6โทรศัพย์ไปหาจำเลยที่1เเละ3เเละให้เอาอาวุธมา ตรงนี้ในอดีตตนเคยเรียกร้องในคดีเเล้วว่าเป็นการไตร่ตรอง ซึ่งก็มีนักวิชาการด้านกฎหมายไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา อัยการ เเละทนายความมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย ว่าเป็นการไตร่ตรองหรือไม่ เเต่ทุกคนไม่ได้เป็นศาลที่ตัดสิน ฉนั้นจะผิดไตร่ตรองหรือไม่ควรมีการตั้งข้อหาให้ศาลเป็นผู้วินิฉัยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ไม่มีการตั้งข้อหาดังกล่าว ฉะนั้นในการอุทธรณ์ตนจะเอาพฤติการณ์ตรงนี้ ที่ศาลลงโทษที่สุดท้ายเหลือ18ปีมันน้อยไป โทษของจำเลยทั้งหมดควรจะประหารชีวิต ซึ่งเป็นบทลงโทษสูงสุดในมาตรา288 ตนจะอุทธรณ์ประเด็นนี้ไป ประเด็นอื่นตนพอใจหมด
เมื่อถามว่าคดีนี้เมื่อไม่ได้ฟ้องฆ่าโดยไตร่ตรองตั้งเเต่ศาลชั้นต้น การนำประเด็นขึ้นอุทธรณ์จะมีปัญหาอำนาจการรับฟังคดีหรือไม่ นายอนันต์ชันกล่าวว่า หากมีการอุทธรณ์ไปประเด็นเรื่องฆ่าโดยไตร่ตรองศาลจะไม่วินิจฉัยให้เพราะไม่มีพฤติกรรมขึ้นไป เเต่ประเด็นที่เราอุทธรณ์ คือเราเห็นว่าจำเลยที่1เเละ3ที่เป็นจำเลยร่วมฆ่านั้นในตอนเเรกจำเลยทั้งสองไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ เเต่เขากลับเอาอาวุธมาจากข้างนอก “คุณไม่ได้มีเรื่องกับผู้ตายตอนเเรกเเต่คุณเอาอาวุธมาเเสดงว่าคุณคิดเเล้ว เเต่หากว่าคุณอยู่ในเหตุการณ์เเล้วไปเอาอาวุธมีดมาผมจะไม่ว่า เลย เเต่นี่คุณเป็นคนนอกเเต่เอาอาวุธมา เราจะเเสดงให้เห็นว่ามีการตระเตรียมการก่อเหตุขอให้เพิ่มโทษให้หนักขึ้น” ทนายความระบุ
เมื่อถามถึงค่าเสียหายทางเเพ่งที่ศาลสั่งกลุ่มจำเลยชดใช้รวม5เเสนบาทพอใจหรือไม่ นายอนันต์ชัย กล่าวว่าประเด็นนี้ยังไม่ได้คุยกับฝั่งญาติซึ่งเป็นผู้เสียหายเเต่ไหนๆเราอุทธรณ์ในส่วนคดีอาญาไปเเล้วอาจจะยื่นตรงนี้ไปด้วยก็ได้เพราะมันไม่ได้เสียหายอะไร เบื้องต้นค่าเสียหายก็พอใจในระดับหนึ่ง เเต่รายละเอียดต้องรอคุยกับญาติอีกครั้ง
ส่วนจะยื่นอุทธรณ์ได้ทันภายใน30วันหรือไม่ ทนายความกล่าวว่าขณะนี้คำพิพากษายังไม่เเล้วเสร็จ ก็ตั้งใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 2 เดือนอาจจะต้องมีการขอขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ออกไป เเละเชื่อว่าฝั่งทางจำเลยก็จะอุทธรณ์คดี ในส่วนของคนที่สนับสนุนเช่นจำเลยที่4 ,5 ,เเละ7ที่ศาลพิพากษาว่าเป็นผู้สนับสนุนนี้นตรงนี้เราเห็นด้วย เเต่ในเรื่องโทษเราก็จะอุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษ เนื่องจากเราอุทธรณ์ทั้งหมด เพราะถ้าหากจำเลยที่1,2,3เเละ6ได้รับโทษในความผิดที่หนักขึ้น คนสนับสนุนก็สมควรที่จะโดนเพิ่มโทษในความผิดที่หนักขึ้นด้วย ตรงนี้เราจะอุทธรณ์ขอศาลไป
“เราไม่อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา289เพราะทำไม่ได้ เนื่องจากตอนฟ้องไม่ได้มีการฟ้องไปเเต่เเรก เเต่เราอุทธรณ์พฤติกรรมว่าการกระทำมันเข้ามาตรา289(4)(ฆ่าโดยไตร่ตรอง) ซึ่งในมาตรา288ที่ศาลสั่งลงโทษมานั้นมีอัตราโทษสูงสุดให้ประหารชีวิตอยู่ด้วย เราจะขอศาลลงให้หนักขึ้นที่สุด” นายอนันต์ชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี มาตรา 289 ผู้ใด (1) ฆ่าบุพการี (2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุ ที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่ (3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำ ตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงาน ดังกล่าวแล้ว (4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย (6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการ ที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ (7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อ หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน