มอบตัวแล้ว คนขับรถพ่วง แหกด่าน พุ่งชน-ดันรถกรมทางหลวง กลางถนนในพื้นที่ จ.นนทบุรี อ้างไม่คุ้นเครื่องแบบ ตกใจชายฉกรรจ์รุมทุบรถ
จากกรณีคลิปเหตุการณ์รถพ่วงสิบล้อขับพุ่งชน แหกด่าน ตรวจชั่งน้ำหนักของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทขณะกำลังเรียกตรวจ ก่อนจะขับรถพ่วงเบียดชนรถกระบะของกรมทางหลวงชนบทที่พยายามเรียกสกัดให้หยุดแต่ไม่เป็นผล จนสามารถขับฝ่าด่านตรวจหลบหนีไปได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : รถพ่วงคลั่ง ทางหลวงเรียก ดื้อแพ่ง ไม่ยอมลงมาคุย แหก-พุ่งชน ดันรถกลางถนน
วันที่ 17 มี.ค.2565 ผู้สื่อข่าวตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณทางคู่ขนาน ถนนนครอินทร์ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อช่วงเวลา 09.30 น.ของวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา และภายหลังเกิดเหตุรถพ่วงสิบล้อขับฝ่าตรวจน้ำหนักแล้วเฉี่ยวชนรถกระบะของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทจนได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินกับคนขับรถพ่วงสิบล้อไว้ที่ สภ.บางกรวย แล้ว
มอบตัวแล้ว คนขับรถพ่วง แหกด่าน พุ่งชน-ดันรถกรมทางหลวง กลางถนนในพื้นที่ จ.นนทบุรี
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สภ.บางกรวย กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางกรวย ทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถพ่วงสิบล้อดังกล่าวจนสืบทราบว่า เป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออิซูซุ ทะเบียน 53-5094 กทม. และไม่ติดป้ายทะเบียนส่วนพ่วง ซึ่งเป็นรถบรรทุกดินของบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานพนักงานสอบสวนให้เรียกตัว นายสุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงสิบล้อคันที่เกิดเหตุให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางตำรวจได้รับแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทเข้าแจ้งความว่า มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ขับรถฝ่าด่านตรวจน้ำหนัก ไม่ยอมหยุดให้ตรวจ ก่อนจะขับรถพ่วงสิบล้อชนเข้ากับรถกระบะของกรมทางหลวงชนบทที่เจ้าหน้าที่นำมาจอดสกัดหน้าเพื่อไม่ให้หลบหนีจนได้รับความเสียหาย
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทบันทึกไว้พบว่าเป็นรถพ่วงบรรทุกดินที่มีการปิดคลุมผ้าใบให้มิดชิดเพื่อป้องกันดินหล่น ส่วนสาเหตุที่หลบหนีต้องรอสอบปากคำคนขับรถพ่วงสิบล้อเสียก่อน เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา คือหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติงาน ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ประมาทหวาดเสียว พร้อมกับเตรียมนำตัวคนขับรถพ่วงสิบล้อไปทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายต่อไป รวมทั้งตรวจสอบการจดทะเบียนของบริษัทเจ้าของรถอีกด้วย
ต่อมา นายสุวัฒน์ ได้ขับรถพ่วงเดินทางมายัง สภ.บางกรวย ก่อนเปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนขับรถบรรทุกดินจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจะมาลงดินที่ย่านพระราม 5 ถึงจุดเกิดเหตุ จู่ ๆ ก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ในเครื่องแบบที่ไม่ใช่ตำรวจกระโดดขวางรถและรุมทุบรถที่ตนขับมาเสียงดังรอบรถ ด้วยความตกใจกลัวเพราะไม่ใช่เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตนคุ้นเคย
นายสุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ซึ่งตามปกติแล้วการตั้งด่านตนจะเห็นสัญญาณไฟหรือกรวยวางกั้นเพื่อเรียกตรวจ แต่ที่ตนขับมาไม่เห็นอะไรเลย จู่ ๆ ก็มารุมทุบรถ ทำให้ตนตกใจจึงตัดสินใจขับรถหลบหนีไปโดยไม่รู้ว่าส่วนพ่วงท้ายรถไปเบียดชนรถกระบะของเจ้าหน้าที่จนได้รับความเสียหาย หลังขับหนีมาแล้วตนจึงได้ขับไปลงดินต่อที่พระราม 5 แต่ยังไม่ทันได้ลงดินทางเจ้าของรถพ่วงก็โทรมาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตามตัวไปพบ
นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนจึงขับรถพ่วงกลับมาที่บริษัทเพื่อให้หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเจ้าของรถพ่วงจะให้ขับรถมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำในเช้าวันนี้ และขอยืนยันว่าตนไม่ได้เสพยาเสพติดใด ๆ ยินดีให้ตรวจได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อมีกลุ่มคนมารุมทุบรถซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า หลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ขับรถประมาทหวาดเสียว, ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งและเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง
