ลาซาด้า / พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เผยความคืบหน้า ตร.เร่งสอบ-เอาผิด ลาซาด้า รองโฆษกเผยไม่ต้องออกคำสั่งห้ามซื้อ แต่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพิจารณาเอง
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ว่า เรื่องนี้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งให้ติดตามการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ทราบว่ามีการเผยแพร่โฆษณา เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเสนอสินค้า ที่มีเนื้อหาพาดพิงไปยังบุคคลที่มีอาการเจ็บป่วย มีความบกพร่องหรือความไม่เท่าเทียม อ่านข่าว : เปิดคำสั่ง ผบ.ทบ. แบน “ลาซาด้า” ด่วนที่สุด ถ้าฝ่าฝืน ผบ.หน่วยต้องรับผิดชอบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างน้อย 2 ข้อหา คือ มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะมีข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา และดำเนินการสอบปากคำตัวแทนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ หรือ ศปปส. และประสานงานกับทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ให้ตรวจสอบและทำการปิดกั้น URL ที่นำเสนอเนื้อหาไม่เหมาะสมดังกล่าวไปแล้ว 49 URL ทั้งลิงก์ที่นำไปโพสต์และแชร์
ส่วนการดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นอย่างน้อย 3 ราย ทั้งบริษัทผู้ผลิตเนื้อหา, บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มที่เป็นผู้เผยแพร่, รวมถึงตัวนักแสดง ซึ่งก็จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน และนำคำให้การมาประกอบพยานหลักฐานว่าใครจะเข้าข่ายความผิดอย่างไรบ้าง
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ผู้เสพสื่อออนไลน์ก็เห็นอยู่แล้วว่าการกระทำนี้เหมาะสมหรือไม่ แม้บริษัทผู้ผลิตเนื้อหาจะออกแถลงการณ์แล้วแต่เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น โดยเฉพาะความผิดที่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องความมั่นคง ก็ต้องดำเนินตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทอาจทำเพื่อการตลาด แต่ก็ต้องดูเรื่องสิทธิและหน้าที่ด้วย อย่าทำอะไรที่สุ่มเสี่ยง
ส่วนกรณีที่ 3 เหล่าทัพ มีการออกคำสั่งแบนไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้น ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกคำสั่งดังกล่าว เพราะตำรวจ ถือว่ามี 2 สถานะ คือ ผู้บังคับใช้กฎหมายและประชาชนทั่วไป ซึ่งในฐานะประชาชนทั่วไป ก็ต้องให้พิจารณาไตร่ตรองเอาเองว่าจะปฏิบัติยังไงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่ถึงขั้นต้องมีคำสั่งไปห้ามปราม
