หลาน หลวงปู่แสง โชว์หลักฐานทางการแพทย์ ยัน ป่วยเป็นอัลไซเมอร์จริง รักษามาหลายปีแล้ว จวก หมอปลา ศึกษาให้ดี ไม่ใช้เป็นศาลเตี้ยตัดสินคน

จากกรณีมีหญิงสาวร้องเรียน นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ให้ตรวจสอบหลวงปู่ชื่อดัง วัดป่าแห่งหนึ่ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยมีคลิปช่วงเกิดเหตุเป็นหลักฐาน ภายในคลิปจะเห็นหลวงปู่ พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนพระชราที่ถูกกล่าวหาจะพยายาม ทั้งลูบหัว โอบกอด และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้ม ต่อมากระแสเริ่มตีกลับ หมอปลา หลังชี้แจงว่า หลวงปู่แสงมีอาการป่วยอัลไซเมอร์ อาจก่อเหตุโดยไม่รู้ตัวและบุกไปแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ‘ทิดสมปอง’ ตั้งคำถามเงิน 57 ล้าน ‘หลวงปู่แสง’ เป็นอัลไซเมอร์ เงินไปอยู่ไหน ?

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบ นางทักษิณา ดีหอม อายุ 52 ปี ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้นำเอกสารการเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของ หลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 96 ปี ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2562 โดยยืนยันว่า หลวงปู่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เป็นอัลไซเมอร์ โดยการนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงเพื่อเป็นหลักฐาน และไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะประพฤติตัวไม่เหมาะสม

นางทักษิณา ซึ่งเป็นหลานสาวของหลวงปู่แสง กล่าวว่า หลังเห็นคลิปจากข่าวรู้สึกตกใจอย่างมาก ตนเป็นลูกหลานติดตามหลวงปู่มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่หลวงปู่บวชที่วัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น ตอนอายุ 20 ปี จนตอนนี้อายุจะถึง 100 ปีแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความรู้สึกงงและสับสนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร แต่ก็เข้าใจอยู่แล้วเพราะหลวงปู่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และก็มีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน และในสถานการณ์แบบนั้นผู้หญิงเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิป ยิ่งทำให้หดหู่ใจสงสารหลวงปู่

“หลังมีคลิปดังกล่าวออกมาก็มีการพูดคุยกันกับญาติ ๆ หลายคนว่าเป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้คือช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนเกิดความไม่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่า หมอปลาและนักข่าวที่ไป มองว่าศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่ เหมือนเป็นการจาบจ้วงพระผู้มีศีล เพราะหลวงปู่บวชมากว่า 80 พรรษา และอาการป่วยอัลไซเมอร์ที่ป่วยนั้นทราบว่าเป็นมานานแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนที่หมอปลาพานักข่าวเข้าไปนั้น หลวงปู่ยังหลง ๆ ลืม ๆ ถามว่าพากันมาทำอะไร และนั่งนิ่งไม่ทำอะไร” นางทักษิณา กล่าว

หลาน หลวงปู่แสง โชว์หลักฐานทางการแพทย์ ยัน ป่วยเป็นอัลไซเมอร์จริง รักษามาหลายปีแล้ว จวก หมอปลา

หลาน หลวงปู่แสง โชว์หลักฐานทางการแพทย์ ยัน ป่วยเป็นอัลไซเมอร์จริง รักษามาหลายปีแล้ว จวก หมอปลา

นางทักษิณา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ได้ไปบ่อย นาน ๆ จะไปหาที แต่เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ลูกหลานก็ไปอยู่หลายคน ตอนนี้มองว่า การจัดการระบบภายในวัดไม่ได้เรื่อง ควรจะมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าหาพระผู้ใหญ่ก็ได้ ควรจะมีขั้นมีตอนในการเข้าหาพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ แล้วที่หลวงปู่ทำลงไปท่านไม่ได้รู้สึกตัวตามคลิปที่บอกว่าไปจับไปล้วงนั้น ท่านไม่ได้รู้สึกและไม่รู้ว่าจับอะไร

นางทักษิณา กล่าวอีกว่า และที่พระให้สัมภาษณ์นั้นก็เป็นการเวียนมาดูแล ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง และมองว่าเรื่องนี้อาจจะมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ตอนนี้ลูกหลานและญาติคนอื่น ๆ ไม่สบายใจอย่างมาก ควรจะมีคนที่มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมา เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาพระที่ดูแลยังไม่ได้ตั้งตัว เป็นการจู่โจมและตัดสินหลวงปู่ไปแล้ว และพยายามจี้ถามให้ตอบ ทั้งที่ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีกว่านี้ อ่านข่าว : หมอดูแล “หลวงปู่แสง” เผยอาการระหว่างเข้าตรวจ ไม่รู้ตัวสิ่งที่ทำ ยันป่วยอัลไซเมอร์

 

นางทักษิณา กล่าวว่า มองการทำงานของหมอปลาว่าแย่กว่าที่ผ่านมา อยากจะถามหมอปลาว่าเคยศึกษาข้อมูลประวัติของหลวงปู่หรือยัง ว่าที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มองว่าเหมือนการจัดฉากกันขึ้นมา เพราะตลอดอายุของหลวงปู่ไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดี แต่ภาพที่เห็นเหมือนหลวงปู่เป็นตุ๊กตา ใครจับทำอะไรก็ทำหมดโดยไม่รู้สึกตัว อยากให้หมอปลาควรศึกษาให้ดี และไม่ได้ใช้คำพูดกับหลวงปู่นอบน้อมกับพระผู้ใหญ่ที่มีศีลเลยแม้แต่น้อย พูดข้ามหัวไปมา

นางทักษิณา กล่าวอีกว่า ในมุมมองไม่ได้โทษหลวงปู่ แต่โทษการจัดการระบบในวัดที่ไม่มีการจัดการที่ดีกว่านี้ อีกทั้งผู้หญิงที่เข้าไปก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกหลานที่เข้าไปประจำก็ไม่เคยขึ้นไปในจุดนั้น หลวงปู่ชราภาพไม่รู้สึกอะไรแล้ว

“อยากฝากให้หมอปลาได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตัดสินคนหรือพระรูปหนึ่งควรศึกษาประวัติให้ดี ควรคิดวิเคราะห์แยกแยะให้ดีว่ามันจะใช่หรือไม่ ไม่ใช่เป็นศาลเตี้ยตัดสินคนเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ในฐานะของญาติ รู้สึกกังวลใจและตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่า มีเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากศรัทธาญาติธรรมที่มีต่อหลวงปู่” นางทักษิณา กล่าว

นางทักษิณา กล่าวต่อว่า ซึ่งผู้ดูแลควรรอบคอบ และเคร่งครัดในข้อปฏิบัติ มากกว่านี้ โดยเฉพาะการอนุญาตให้สตรีขึ้นไปใกล้ชิดหลวงปู่ และที่สำคัญโยมไม่มีหน้าที่ไปตัดสินพระให้สึก ทุกอย่างมีขั้นมีตอน มีพระผู้ใหญ่ดูแล พระท่านมีศีลมีธรรมที่สูง และอยากขอถามกลับไปว่าคนเรามีศีลขนาดไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน