กรมควบคุมโรค คาดไทยอาจพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกงาน ‘ไพรด์พาเหรด’ เหตุคนหลายประเทศร่วมงาน เฝ้าระวัง 5 เที่ยวบินตรง แนะเว้นระยะห่างจากคนเป็นผื่น

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง (Monkeypox) ว่า จากการเฝ้าระวังและคัดกรองโรคฝีดาษลิงในประเทศ ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยสงสัยและผู้ป่วยเข้าข่ายเพิ่มเติม

ส่วนชาวต่างชาติ 3 รายที่ผลการตรวจพบว่าเป็นโรคเริม รักษาตัวและกลับบ้านไปตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.65 โดยการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิด แม้จะไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่กรมควบคุมโรคก็ประสานไปยังโรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทางต่างๆ

เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคผิวหนัง ว่าหากพบผู้ป่วยที่เข้านิยามให้ส่งข้อมูลมาส่วนกลาง แต่ขณะนี้ส่วนใหญ่ยังไม่เข้านิยาม เช่น ไม่มีตุ่ม ไม่ออกผื่น อย่างไรก็ตาม โรคฝีดาษลิงไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย ยังอยู่ในโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังเทียบได้กับโรคไข้เลือดออก

เมื่อถามว่า หากประเมินสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก คาดว่าไทยเราจะพบผู้ป่วยประมาณช่วงใด นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า สำหรับการพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเริ่มต้นในเดือนพ.ค.จากเทศกาลไพรด์ (pride festival) ประเทศสเปน ซึ่งสัปดาห์นี้ไทยเราก็จะมีงานไพรด์พาเหรดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังเที่ยวบินตรงจากประเทศที่พบการติดเชื้อในประเทศแล้ว ตอนนี้มี 5 จากเดิม 3 ประเทศ คือ แอฟริกา อังกฤษ โปรตุเกส สเปน และแคนาดา และจับตาเยอรมนีเพิ่มเติม ทั้งนี้ ผู้เดินทางเข้าประเทศไทย เฉลี่ยวันละ 1 หมื่นคนต้นๆ

“คาดว่าสัปดาห์หน้าจะพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการเดินขบวนพาเหรดงานไพรด์ในไทยที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าร่วมงาน ก็อาจจะพบผู้ป่วยเข้ามาอย่างแน่นอน” นพ.จักรรัฐ กล่าว

เมื่อถามถึงมาตรการที่ต้องเตรียมในการจัดงานไพรด์พาเหรด นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่จัดงานยังไม่ได้ประสานข้อมูลมา แต่กระทรวงสาธารณสุข วางแผนระบบเฝ้าระวังสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานคร พร้อมประสานเครือข่ายผู้ดูแลงานโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าไปรักษาในคลินิกเฉพาะทางด้วย

แต่ย้ำว่าโรคฝีดาษลิงไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรง ดังนั้นมาตรการ Universal Prevention หรือ UP ด้วยการเว้นระยะห่างกันจะดีที่สุด

เมื่อถามต่อว่า หากผู้เข้าร่วมงานไพรด์พาเหรดจะต้องเฝ้าระวังตนเองต่อไปอีกกี่วัน นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า หากมั่นใจว่าไม่ได้ใกล้ชิดผู้ที่อาการป่วย ออกผื่นก็ไม่น่ากังวล แต่หากใกล้ชิดกันโดยไม่ได้สังเกต ก็เป็นความเสี่ยง ฉะนั้นหากพบผู้ที่มีอาการผื่นก็ขอให้พามาตรวจที่รพ. เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่โรคฝีดาษลิง

ทั้งนี้ ระยะฟักตัวของโรคคือ 5-21 วัน ดังนั้น หากจะเฝ้าระวังตัวเองก็ต้องอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังจากความเสี่ยงนั้นๆ อาการเบื้องต้น 10 วันแรกจะเป็นไข้ หลังจากนั้นจะเป็นผื่นขึ้น ก็ขอให้รับการตรวจที่ รพ.

“ช่วงงานไพรด์พาเหรด แม้คนที่ร่วมงานยังไม่มีผื่น แต่ถ้าจะให้ดียังคงต้องทำ UP เว้นระยะห่างจากคนให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งมีความกังวลว่าหลังจากจบงานแล้วจะมีการเที่ยวกันต่อหลายวัน มีการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ ก็อาจติดเชื้อได้” ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าว

เมื่อถามถึงแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจำเป็นต้องป้องกันตัวด้วยชุด PPE หรือไม่ นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะไม่ใช่โรคติดต่อจากระบบทางเดินหายใจ แต่ติดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งแบบใกล้ชิด เช่น การกอด การจูบ ฉะนั้นคนทั่วไปที่เดินผ่านคนมีอาการผื่น ก็ไม่มีความน่ากังวล เพียงแต่เดินห่างๆ ก็พอ เพราะระยะแพร่เชื้อส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่ออกผื่นแล้ว

ที่มา มติชนออนไลน์

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน