‘อนุทิน’ เคลียร์ร้านอาหารปรุงกัญชา ต้องทำตามประกาศกรมอนามัย ใส่ได้เมนูละ 2-3 ใบ น้ำมันกัญชาใช้เกินผิดกฎหมาย ไม่ควรกินเกิน 2 เมนูต่อวัน

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.65 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีร้านอาหารใช้กัญชาประกอบอาหาร แล้วผู้บริโภคมีอาการแพ้ว่า คำแนะนำคือให้ใช้ใบกัญชาปรุงอาหารเพียง 2 -3 ใบ ถ้าไม่เกินกำหนดก็ไม่มีอาการแน่นอน

แต่หากนำน้ำมันสกัดที่ไม่รู้ว่ามีปริมาณ THC เกิน 0.2% โดยน้ำหนักหรือไม่ แล้วเทไปทั้งขวด ก็จะเกิดอาการแน่นอน ดังนั้นใช้นอกเหนือกฎหมายก็ผิดแน่นอน ต้องดำเนินคดี แต่หากใช้ใบมาวาง ใส่หม้อก๋วยเตี๋ยว 2-3 ใบ ก็ไม่เกิดเหตุการณ์นี้แน่นอน

“หากเราแพ้ก็ต้องไปดูว่าแพ้อะไร ในหม้อน้ำซุปมีส่วนผสมอื่นด้วยหรือไม่ แต่ถ้าเอาน้ำมันกัญชาไปใช้เกินปริมาณ ก็จะผิดกฎหมายยาเสพติด ถ้าเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สุ่มตรวจพบมากกว่า 0.2% ก็ผิดกฎหมาย” นายอนุทิน กล่าว

รมว.สธ. กล่าวย้ำว่า ผู้ปรุงอาหารจะต้องบอกว่า มีส่วนผสมของกัญชาอย่างไร ซึ่งกรมอนามัยออกประกาศว่าร้านอาหารต้องแจ้งว่าอาหารใดผสมกัญชา เพื่อให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งทุกวันนี้หลายร้านนำตรงนี้มาเป็นจุดขายด้วย

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้กรมอนามัย โดยสำนักโภชนาการ ออกข้อคำแนะนำการนำใบกัญชามาปรุงอาหาร ทั้งแบบปรุงสด ต้ม นึ่ง และทอดว่า ใน 1 เมนูควรใช้ 1-2 ใบ โดยเราคำนวณปริมาณที่ควรได้รับว่า ไม่ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชาเกิน 2 เมนูต่อวัน กรณีที่กินจนหมด

แต่หากกรณีเป็นกับข้าวหลายเมนู รับประทานอย่างละเล็กน้อย ก็จะดูสัดส่วนโดยรวมที่ร่างกายไม่ควรได้รับเกินปริมาณ ทั้งนี้ แนะนำให้สั่งเมนูที่ไม่มีกัญชาด้วย เพื่อให้รับประทานครบหมู่อาหาร หรือถ้าทุกเมนูมีกัญชา ก็ไม่ควรกินจนหมดในทุกเมนู และไม่ควรกินก่อนขับขี่ยานพาหนะ ทำงานใช้เครื่องจักรหรืออยู่ในที่สูง

“ประกาศกรมอนามัยกำหนดให้ 1.ร้านอาหารมีคำเตือนให้ผู้บริโภคทราบ 2.ผู้ประกอบการ ผู้สัมผัสอาหาร ผู้เสิร์ฟ ต้องมีความรู้ เพื่อแนะนำและเตือนไม่ให้กินเกินกำหนด จริงๆ มีกฎหมายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็จะเข้มขึ้น” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

เมื่อถามถึงวิธีสังเกตอาการแพ้กัญชา และวิธีล้างพิษ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ไม่รู้สึกอะไร ซึ่งไม่น่ากังวล 2.กลุ่มที่มีความไวมาก อาการแพ้ หน้าแดง ผื่นขึ้น จนหายใจไม่ออก มีอาการเฉียบพลัน กลุ่มนี้ต้องออกคำเตือนห้ามกินอาหารผสมกัญชา และ 3.กลุ่มที่ต้องใช้เวลาแสดงอาการ หรือต้องกินมากๆ ถึงแสดงอาการ กลุ่มนี้ต้องจำกัดปริมาณการกิน ทั้งนี้ ร้านอาหารต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ใส่กัญชาเยอะ เพื่อหวังเชิญชวนผู้บริโภค

“ร้านอาหารต้องติดป้ายว่าเมนูไหนใส่กัญชามากน้อยอย่างไร ผู้บริโภคที่เริ่มกินอะไรที่ไม่คุ้น ก็จะไม่เริ่มจากปริมาณมากๆ ฉะนั้นก็ให้เริ่มชิมๆ แตะๆ เพราะบางคนไวมาก แค่ชิมก็มีอาการ ส่วนวิธีการแก้ไขอาการแพ้กัญชา ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและลักษณะของอาการ” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรมอนามัยออกประกาศ เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 กำหนดให้สถานประกอบกิจการอาหาร มีการจัดเก็บใบกัญชาที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ จัดเก็บเป็นสัดส่วน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา หรือเน่าเสีย

โดยสถานประกอบการกิจการอาหาร ต้องควบคุม กำกับ และต้องจัดให้มีการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพและต้องตระหนักด้านความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค เกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบของอาหาร ได้แก่

1.จัดทำข้อความที่แสดงข้อมูลเป็นสถานประกอบกิจการอาหารที่มีการใช้กัญชา

2.แสดงรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาทั้งหมด

3.แสดงข้อมูลปริมาณการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบต่อรายการอาหารตามประเภทการทำ ประกอบหรือปรุงอาหาร เช่น อาหารทอด แนะนำการใช้ใบกัญชาสด 1-2 ใบสดต่อเมนู สำหรับอาหารประเภทผัด แกง ต้ม ผสมในเครื่องดื่มแนะนำการใช้ใบกัญชาสด 1 ใบสดต่อเมนู

4.แสดงข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ

5.แสดงคำเตือนรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาให้แก่ผู้บริโภคที่มีความเสี่ยง หากรับประทานอาหารที่ใช้ใบกัญชาทราบ ด้วยการระบุข้อความ เด็กและวัยรุ่นช่วงอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา เช่น ขนม อาหารและเครื่องดื่ม, สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน,

หากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที, ผู้ที่แพ้หรือไวต่อสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) หรือสารแคนนาบิไดออล (CBD) ควรระวังในการรับประทาน, อาจทำให้ง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล

6.ห้ามแสดงข้อความหรือโฆษณาสรรพคุณในการป้องกันหรือรักษาโรค

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน