รวบ2เดนคุกแสบ สะเดาะ กำไลอีเอ็ม โยนทิ้งไว้บ้าน ตระเวนวิ่งราวทรัพย์หลายท้องที่ทั่วกรุง พบประวัติก่อเหตุมาโชกโชน จนมุมชุดสืบนครบาล

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2565 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.จ.จักรภพ สุคนธราช ผบก.น.1 พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.สน.พญาไท พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง

กำไลอีเอ็ม

ถอดกำไลอีเอ็มทิ้งไว้บ้าน

พ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.อ.สุธิศักดิ์ พิริยะภิญโญ ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส. บก.น.1 พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.พ.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ธนศุภณัฐ์ ผกก.สส.2บก.สส.บช.น.พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.พร้อมชุดสืบสวน

ร่วมกันแถลงจับกุม ผู้ต้องหาตระเวนวิ่งราวทรัพย์ทั่ว กทม. 2ราย คือ นาย ประเวช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1383/2565 ลง 7 ก.ค. 2565 ข้อหา”วิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือเสื้อผ้า , รองเท้าแตะสีดำ , หมวกกันน็อก อาวุธปืน รถจักรยานยนต์ PCX สีน้ำเงิน ทะเบียน 6 กง 3407 กทม. ( ใช้ในการก่อเหตุ ) โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

และนายศตวรรษ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1401/2565 ลง 8 ก.ค. 2565 ข้อหา” ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ “พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ , เสื้อผ้า , รองเท้าแตะสีแดง ส่วนรถจักรยานยนต์ PCX สีขาวแดง ทะเบียน กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ ได้ตรวจยึดจากเพื่อนซึ่งยืนยันว่า นายศตวรรษมายืมไปใช้ไม่ทราบว่านำไปก่อเหตุ พร้อมยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดมาเพื่อใช้ประกอบในการดำเนินคดี โดยจับกุมได้ที่ที่พักถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.

สืบเนื่องจากในห้วงปี2565 เกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ในหลายพื้นที่ ทั่วเขต กทม. ซึ่งมีพฤติกรรมแผนปทุษกรรมในลักษณะเดียวกันรวม 9 คดี ประกอบด้วย สน.สุทธิสาร จำนวน 3 คดี , สน.บางซื่อ จำนวน 2 คดี , สน.ห้วยขวาง จำนวน 1 คดี , สน.ท่าข้าม จำนวน 1 คดี , สน.พญาไท จำนวน 1 คดี และสน.พหลโยธิน อีกจำนวน 1 คดี เจ้าหน้าที่สืบสวนเรื่อยมา

การขยายผลตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือนายประเวชและนาย ศตวรรษ เนื่องจากพบว่าเส้นทางขณะมาก่อเหตุและเส้นทางหลบหนีสอดคล้องกับผู้ต้องหาทั้ง2ราย เนื่องจาก ทั้งสองคนปัจจุบันประกันตัวออกมาต่อสู้คดี และถูกศาลสั่งให้ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อพิรุธเกี่ยวกับกรณีสัญญาณกำไลอีเอ็ม ประกอบกับทางการสืบสวนปรากฏจาก ลักษณะการแต่งกาย , ยานพาหนะ








Advertisement

ต่อมาจึงได้วางแผนร่วมกับตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุและฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ กระทั่งสามารถขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง2 ราย กระทั่งวันที่9 ก.ค.ติดตามไปจนสามารถจับกุมตัวได้ไว้ ซึ่งขณะจับกุมตัวนั้น นายประเวชฯ ไม่ได้สวมใส่กำไลอีเอ็ม และ จากการตรวจค้น พบกำไลดังกล่าวอยู่ที่บ้านเลขที่ 226/2 ตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ในลักษณะชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ ส่วนนายศตวรรษ ติดกำไลอีเอ็ม แต่ข้อมูลจีพีเอสในโทรศัพท์มือถือของนายศตวรรษฯ เคลื่อนที่ไม่สอดคล้องกับข้อมูลสัญญาณกำไลอีเอ็ม จึงจับกุมได้พร้อมของกลาง

จากการสอบสวน นายประเวช รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุที่ใช้รถจักรยานยนต์ PCX สีน้ำเงิน ส่วนนายศตวรรษฯยังไม่ขอให้การ และ ปฏิเสธเกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการสอบสวนพิสูจน์ความผิดเพิ่มเติม จากการตรวจสอบประวัติของนายประเวช พบประวัติคดีวิ่งราวทรัพย์ 5 คดี คดีบุกรุกเคหสถานเวลากลางคืน 1 คดี คดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน(ยิงต่อสู้) 1 คดี จำคุกตั้งแต่ปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 ถูกจับกุมต่อเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พรบ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และ ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม ซึ่งจากการตรวจค้นที่บ้านในพื้นที่สน.วัดพระยาไกร ยังเจอกำไล EM ถูกถอดไว้ด้วย

ส่วนนายศตวรรษ พบประวัติวิ่งราวทรัพย์ จำคุกตั้งปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 ที่อยู่หลังปล่อยตัว คือย่านบางคอแหลม กทม. ถูกจับกุมต่อเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พรบ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวนายประเวช พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ส่วน นายศตวรรษ ถูกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไทเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน