กรณีนายนำพล เวียงชัย (พลเก้านิ้ว) อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 10 ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม บุกเข้าไปยิง นางเตือนตา กระดังงา อายุ 52 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลสระกระเทียม หมู่ 12 อดีตภรรยาเสียชีวิต เข้าที่ศีรษะ เมื่อคืนวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ที่บ้านในตำบลสระกระเทียม อำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม ต่อหน้าหลานชายอายุเพียง 10 ขวบ แล้วหลบหนี หลุดรอดจากการปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ไปได้หลังก่อเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ผัวคลั่งยา หึงโหด ลากเมียซึ่งเป็นสมาชิกอบต. จ่อยิงหัวดับต่อหน้าหลาน 10 ขวบ(คลิป)
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.33 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม พร้อมชุดสืบสวนชุดจับกุม จากกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และชุดสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม
ร่วมการแถลงข่าวความคืบหน้าการติดตามจับกุม นายนำพล เวียงชัย (พลเก้านิ้ว) อายุ 49 ปี โดยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่สอบสวนพยาน และเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.24/2561 ลงวันที่ 19 มกราคม 2561 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และมิใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือชุมชน”
โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมแถลงผลความคืบหน้าในการสืบสวนติดตามจนกระทั่งจับกุมได้ แก่สื่อมวลชน โดยพฤติการณ์ในการจับกุมนายนำพลได้ จากที่ได้ข้อมูลจากผู้ต้องหาอ้างว่าหึงหวงบันดาลโทสะ มันก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะพูดหรือให้การ แต่โดยพฤติการณ์การกระทำของผู้ต้องหาค่อนข้างจะโหดเหี้ยม และจากข้อมูลเห็นว่ามีการข่มขู่คุกคามจะฆ่ายกครัว รวมทั้งก่อนที่จะมาก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนหน้าก็เคยบุกรุกเข้ามาทำร้ายจนถูกออกหมายจับมาแล้วถึง 2 หมาย อยู่ระหว่างหลบหนีและได้แอบมาก่อเหตุในครั้งนี้
สาเหตุก็เกิดจากปัญหาครอบครัวเรื่องความระแวงหึงหวง อดีตภรรยา ที่ไม่ได้จดทะเบียนกัน แต่อยู่กินกันจนมีลูก 2 คนลูกชายคนโตอายุ 23 ปี ลูกคนที่สองเป็นหญิงอายุประมาณ 17 ปี จะไปแอบมีชายคนใหม่ หลังก่อเหตุแล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกปิดล้อม ตั้งแต่เวลาหลังเกิดเหตุจนกระทั่งวันรุ่งขึ้น แต่ก็หลบหนีการปิดล้อมไปได้
ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า นายนำพลหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 7 ตำบลกรับใหญ่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กำลังของเจ้าหน้าที่หลายส่วน จึงสนธิกำลังเข้าปิดล้อม จนสามารถจับกุมนายนำพล ขณะพยายามวิ่งหลบหนีออกจากบ้านดังกล่าว
หลังจับกุมนายนำพล รับสารภาพพร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นในบ้านหลังที่ตนมาหลบซ่อน ยึดอาวุธปืนรีวอลเวอร์ขนาด .38 ซึ่งเป็นปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุยิงอดีตภรรยาเสียชีวิตจำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนในรังเพลิง 5 นัด ปลอกกระสุนยิงไปแล้ว 1 ปลอก และยังตรวจยึดอาวุธปืนแบบออโตเมติกยี่ห้อสตาร์ ขนาด 6.35 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 2 นัด นำตัวมาสอบสวนปากคำ นายนำพลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากคนร้ายก่อเหตุเจ้าที่ตำรวจใช้เวลาเพียง 36 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมคนร้ายได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
หลังจากจบการแถลงข่าวผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ให้พนักงานสอบสวนนำตัวนายนำพลผู้ต้องหาไปชี้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง นปพ. และกำลังที่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กำลังตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมกว่า 50 นายคุ้มกัน ซึ่งขณะทำแผนมีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นญาติกับผู้ตาย ต่างตะโกนด่าทอ สาปแช่งผู้ต้องหา บางส่วนพยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันไว้ หลังจากเสร็จสิ้นก็จะส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนอกนม สอบสวนปากคำเพิ่มเติม และนำตัวส่งไปผลัดฟ้องฝากขังตามกระบวนการต่อไป
สำหรับฉายาพลเก้านิ้ว ของนายนำพล ผู้ต้องหา เนื่องจากนิ้วชี้มือข้างซ้ายของนายนำพลขาดด้วน จากถูกเครื่องเกี่ยวข้าวตัดขาดเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนหรือผู้ที่รู้จักบางคน จึงตั้งฉายาให้ว่าพล 9 นิ้ว
