ทนายตั้ม พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าแจ้งความ หลังจากถูกสาวอ้างเป็น ลูกบุญธรรม อดีตบิ๊กตร. หลอกลงทุนกว่า 100 คน เสียหายหลายสิบล้าน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ส.ค.2565 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พาผู้เสียหายกว่า 10 คน มาดำเนินคดีต่อ น.ส.รุ่ง (นามสมมติ) ที่อ้างตัวว่าเป็น ลูกบุญธรรมของ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉ้อโกงหลอกลงทุนกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท

นายษิทรา กล่าวว่า น.ส.รุ่งที่อ้างว่าเป็นลูกบุญธรรมของบิ๊กตำรวจ มีการชักชวนให้ผู้เสียหาย 100 กว่าคนร่วมลงทุน ทั้งเรื่องของการร่วมเล่นแชร์ และหลอกลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับ “ผงบักกุ๊ดเต๋” เสียหายหลายสิบล้านบาท ซึ่งไม่ได้มีการทำธุรกิจนี้จริง มีเพียงเอกสารโปรโมตการขายผ่านเอกสารเท่านั้น โดยเชื่อว่า จุดประสงค์ที่อ้างว่าทำธุรกิจ เพราะต้องการให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

ทนายตั้ม พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าแจ้งความ หลังจากถูกสาวอ้างเป็น ลูกบุญธรรม อดีตบิ๊กตร. หลอกลงทุนกว่า 100 คน

ทนายตั้ม พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าแจ้งความ หลังจากถูกสาวอ้างเป็น ลูกบุญธรรม อดีตบิ๊กตร. หลอกลงทุนกว่า 100 คน

นายษิทรา กล่าวต่อว่า น.ส.รุ่งมีการนำภาพถ่ายของตนเองคู่กับอดีตบิ๊กตำรวจมาแอบอ้างอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คนหลงเชื่อว่าเป็นลูกบุญธรรมจริง วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้มีทนายความที่มีคนติดตามหลักแสนร่วมอยู่ในขบวนการด้วย ซึ่งตนและผู้เสียหายจะนำหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนสอบสวนว่ามีใครร่วมกระทำความผิดบ้าง

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้มีการสอบถามไปทางอดีตบิ๊กตำรวจที่ถูกกล่าวอ้าง เบื้องต้นปฏิเสธว่า ไม่ใช่ลูกบุญธรรมจริง แต่อดีตบิ๊กตำรวจนายนี้ให้น.ส.รุ่งติดต่อมาหาตนเอง และน.ส.รุ่งก็มาหาตนที่สำนักงานพยายามที่จะเอาของแบรนด์เนมราคาแพงมาให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่านำมาให้เพื่อต้องการอะไร แต่ตนเองได้ให้น.ส.รุ่งเอาของกลับไปแล้ว

นายษิทรา กล่าวว่า โดยน.ส.รุ่ง แจ้งว่าต้องการเข้ามาชี้แจง โดยอ้างว่า มีการนำเงินของผู้เสียหายมาลงทุนจริง แต่เงินหมุนเวียนไม่ทัน จึงเกิดปัญหาและให้ตนยังไม่พาผู้เสียหายมาแจ้งความได้หรือไม่ ซึ่งตนก็แจ้งไปว่าไม่ได้ เพราะคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก

ด้าน ผู้เสียหาย กล่าวว่า ที่ตนหลงเชื่อ ยอมลงทุนด้วย เพราะว่าน.ส.รุ่ง มีทนายชื่อดังการันตีว่าเครดิตดี ประกอบกับมีการแอบอ้างว่า เป็นลูกของบิ๊กตำรวจ จึงมั่นใจว่าเป็นลูกค้าราชการ คงไม่หลอกลวงแน่นอน โดยรูปแบบการลงทุนมี 2 แบบ คือ เล่นแชร์ระยะสั้น ส่งทุก 2 วัน ไม่เกิน 1 เดือน ก็ปิดวงแชร์ได้ และการลงทุนธุรกิจผงบักกุ๊ดเต๋ ซึ่งส่วนแบ่งการลงทุนจะได้กำไร 15% ของยอดขาย ซึ่งน.ส.รุ่ง อ้างว่าสามีเปิดบริษัท และมีตัวตนจริง และเคยพูดว่า จะไม่โกง เพราะจะไม่เอาชื่อเสียงมาแลกกับเรื่องแบบนี้

ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า เริ่มลงทุนช่วงปี 2564 และมีคนเคยได้ผลตอบแทน แต่เริ่มไม่ได้ยอด เมื่อช่วงมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายบางคนดำเนินคดีแล้ว เพราะบางคนอยู่ต่างจังหวัด จึงแจ้งความในท้องที่ ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาในการแจ้งความ ตำรวจรับทำคดีตามปกติ มีเพียงตัวของน.ส.รุ่งที่โทรไปต่อว่าพนักงานสอบสวน หลังจากที่ถูกอายัดบัญชีว่าทำไมต้องอายัดบัญชีทั้งหมด ทำไมถึงไม่อายัดเฉพาะบัญชีที่ถูกแจ้งความ

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าอดีตบิ๊กตำรวจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เพราะถูกแอบอ้าง ซึ่งน.ส.รุ่งมีการสร้างสตอรี่เกี่ยวกับอดีตบิ๊กตำรวจหลายอย่าง จึงอยากขอให้อดีตบิ๊กตำรวจท่านนี้ ให้มีส่วนร่วมในการพาน.ส.รุ่งออกมารับผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน