ไฮโซเบลล์ ญาณบารมี ขึ้นโรงพักปากเกร็ด เผชิญหน้า อดีตสามี ลูกดีเจชื่อดัง หลังร้องถูกทำร้ายร่างกาย เผย คู่กรณียอมชดใช้ค่าพังประตู 4 หมื่นบาท

จากกรณี น.ส.ธัญญ์สมินธิ์ หรือ เบลล์ มหาโชติเทวากุล อายุ 28 ปี ไฮโซสาวหมอดูรับเสริมดวง เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เบลล์ญาณบารมี” ร้องเรียน หลังจากถูก นายชวิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี อดีตสามีที่เลิกรากันไปกว่า 1 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของอดีตดีเจชื่อดังทำร้ายร่างกาย และล่าสุดบุกมาที่บ้านยืนตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะใช้เท้าถีบประตูบ้านจนเสียหายและพยายามจะบุกเข้าไปในบ้านเพื่อจะทำร้ายร่างกายอีก ทำให้อดีตแฟนสาวเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ปากเกร็ด อ่านข่าว : สาวบุกร้อง เลขารมว.ยุติธรรม ถูกอดีตสามีลูกดีเจชื่อดังทำร้าย ขู่ฆ่ายกครัว คดีไม่คืบ

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ส.ค.2565 น.ส.ธัญญ์สมินธิ์ หรือ เบลล์ มหาโชติเทวากุล อายุ 28 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด พร้อมกับนายชวิศ อดีตสามี ตามหมายเรียก เพื่อตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีที่นายชวิศได้ทำลายประตูบ้านของน.ส.ธัญญ์สมินธิ์จนได้รับความเสียหาย และถูกแจ้งข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย

ไฮโซเบลล์ ญาณบารมี ขึ้นโรงพักปากเกร็ด เผชิญหน้า อดีตสามี ลูกดีเจชื่อดัง หลังร้องถูกทำร้ายร่างกาย

ไฮโซเบลล์ ญาณบารมี ขึ้นโรงพักปากเกร็ด เผชิญหน้า อดีตสามี ลูกดีเจชื่อดัง หลังร้องถูกทำร้ายร่างกาย

ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองคนหลังจากตกเป็นข่าวมา โดยทั้งสองคนได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง โดยนายชวิศมีสีหน้าท่าทีเรียบเฉยในระหว่างให้การกับพนักงานสอบสวน อ่านข่าว : ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดหลักฐานอื้อ ลูกดีเจดังซ้อมไฮโซสาว ลูกคนโตเพิ่งต่อยคนฟันร่วง

น.ส.ธัญญ์สมินธิ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเพื่อให้มาตกลงเจรจากับคู่กรณีในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายที่ถูกทำลายประตูบ้านพัก ไม่ได้มาไกล่เกลี่ยหรือยินยอมถอนแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ทางคู่กรณียินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้เป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นบาท จึงจบในส่วนของข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายไป ส่วนคดีทำร้ายร่างกายตนนั้น ขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

น.ส.ธัญญ์สมินธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เสร็จแล้ว ตนจะเดินทางไปให้ปากคำต่อในคดีทำร้ายร่างกายที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งพยานหลักฐานยืนยันในเรื่องของการทำร้ายร่างกายอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายกับคู่กรณีไว้ที่ สน.โครกครามอีกด้วย

น.ส.ธัญญ์สมินธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนวันนี้ที่ สภ.ปากเกร็ด เป็นการไกล่เกลี่ยตกลงชดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น ซึ่งแม้จะเป็นการพบเจอหน้ากันครั้งแรกหลังเป็นข่าว แต่ตนยังไม่เคยได้รับคำขอโทษใด ๆ ออกมาจากปากเขาเลย และยังเห็นเขาไปโพสต์แขวะตนอีกในทำนองที่ว่า ออกสื่อทำเป็นปากกล้า พอลับหลังแอบไปนั่งร้องไห้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของเขาว่า ยังคงไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ได้ทำร้ายร่างกายตนบ่อยมาก แทบจะเกือบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ไม่ว่าจะในที่ส่วนตัวหรือที่สาธารณะก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ตนมีพยานยืนยันไว้หมดแล้ว

ด้าน นายชวิศ กล่าว่า วันนี้ตนเดินทางมารับทราบข้อหาบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลกับพนักงานสอบสอบ สภ.ปากเกร็ด เพียงข้อหาเดียว ซึ่งตนเดินทางมารับทราบข้อหาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หลบไม่หนีไปไหน ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายเขาจริง ซึ่งในส่วนของคดีนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายไป แต่เรื่องอื่น ๆ ที่เขาไปให้ข่าวว่าตนเสพยา หรือทำร้ายร่างกายเขาทุกวันนั้น ตนขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และให้ทนายความส่วนตัวจัดการเรื่องนี้ไป อย่างวันนี้ตนก็มาแสดงตัวยืนยันความบริสุทธิ์ใจให้ดูแล้วว่า พร้อมรับทราบข้อหาและไม่หลบหนีไปไหน

นายชวิศ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่เขาจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนเพิ่มที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.โครกครามนั้น ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่มา หากมีการติดต่อมาตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปรับทราบข้อหาเช่นเดียวกัน ไม่หลบหนีไปไหนแน่นอน ที่ผ่านมาหลังตกเป็นข่าว มีสื่อมากมายพยายามมาสอบถามกับตนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจริงไหม ตนทำร้ายร่างกายเขาจริงหรือไม่ ตนก็ได้ตอบไปว่าตนทำจริง แต่มันมีมูลเหตุที่เกิดเรื่อง ซึ่งตนยังไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องมามัดตัวตนในภายหลัง

นายชวิศ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ตนอยากชี้แจงคือเรื่องที่เขาไปให้ข่าวในทำนองที่ว่า เวลาเกิดเหตุนั้น พ่อกับแม่ของตนไม่เคยช่วยเหลือหรือพาเขาหลบหนีเลย ตนขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่เกิดเรื่องทุกครั้ง พ่อกับแม่ของตนพาเขาหนีทุกรอบ จนตนน้อยใจต้องถามพ่อกับแม่ว่า ตนใช่ลูกของพ่อกับแม่จริง ๆหรือเปล่า เพราะเอะอะอะไรพ่อกับแม่ก็เข้าข้างแต่ฝ่ายผู้หญิงจนตนน้อยใจ

นายชวิศ กล่าวด้วยว่า ประเด็นเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้นตนยอมรับว่าทำจริง ผิดก็ว่าไปตามผิดเลย แต่ทุกคนเคยสงสัยไหมว่าทำไมอดีตแฟนคนนี้ของตน ก่อนที่จะมาคบกับตน เขาก็ถูกอดีตแฟนทำร้ายร่างกายมาเหมือนกัน ทุกอย่างมีมูลเหตุเพียงตนยังไม่อยากที่จะพูดถึง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน