โดน 5 ข้อหาหนัก ‘สารวัตรคลั่ง’ อาการยังโคม่า มีเลือดออกในช่องท้อง กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเร่งเก็บหลักฐาน ประเมินความเสียหายทรัพย์สินบ้านเรือนประชาชน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่15 มี.ค.66 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ตนเดินทางไปตรวจสอบอาการของ พ.ต.ท.กิตติกานต์ สารวัตร สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว บช.สันติบาล ที่คลุ้มคลั่งยิงปืนภายในบ้านพักย่านสายไหม ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ยิง 6 นัด อาการสาหัส รักษาตัวที่รพ.ภูมิพล โดยผู้ก่อเหตุอยู่ในห้อง ICU และคาดว่าจะต้องผ่าตัด เนื่องจากพบว่ามีเลือดออกในช่องท้อง ส่วนโดนยิงกี่นัดนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากแพทย์ยังไม่ให้เข้าดูอาการ

“วันนี้มากำชับกับพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานในการตรวจที่เกิดเหตุ รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนโดยรอบ ว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะให้ทางพนักงานสอบสวนจดบันทึกเอาไว้ด้วย รวมถึงตรวจพิสูจน์ หัวกระสุนและปลอกกระสุน ชิ้นไหนที่มาจากทางฝั่งผู้ก่อเหตุ ชิ้นไหนมาจากทางฝั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

รวมถึงตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยงานไหน ใช้ปืนชนิดใด เข้าปฏิบัติการ เบื้องต้นพบปืนเพียง 1 กระบอก เป็นปืนลูกโม่ แต่เรื่องเครื่องกระสุนยังไม่ยืนยันทั้งจำนวนและชนิด แต่ต้องรอทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง” พล.ต.ต.อรรถพล กล่าว

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิบัติการในครั้งดังกล่าว เริ่มจากรับแจ้งเหตุ มีผู้ยิงปืนออกมาไม่ต่ำกว่า 50-60 นัด โดยการปฏิบัติการนั้น เริ่มต้นจากการปิดล้อม ใช้แก๊สน้ำตา 2 ครั้ง โดยยังไม่ได้เข้าไปในบ้านของผู้ก่อเหตุเลย และแต่ละครั้งก็ถูกยิงสวนออกมา จนมาถึงเมื่อเช้านี้ประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่รายหนึ่งถูกยิงเข้าที่หมวกนิรภัย แต่ไม่ได้รับอันตราย

ผบก.น.2 กล่าวอีกว่า สำหรับการบุกจับกุมตัวที่เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงนั้น สืบเนื่องจากช่วงดึกที่ผ่านมาทีมแพทย์จากกรมสุขภาพจิตประเมินเบื้องต้นว่า สภาพจิตของผู้ก่อเหตุมีความเบี่ยงเบน จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาโดยเร็ว ซึ่งหากใช้วิธีเจรจาให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวนั้น อาจไม่ใช้เวลาเร็วแน่นอน รวมถึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับบุคคลภายนอกด้วย ดังนั้นทางตำรวจจึงต้องปลุกเพื่อควบคุมตัว และนำส่งแพทย์โดยเร็ว

“สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ บุคคลต่างๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมถึงการเก็บพยานหลักฐานอยู่ ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ ระหว่างที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ ถูกกระสุนเข้าที่ข้อพับซ้าย, หน้าอกซ้าย ขาท่อนบนซ้าย, ขาขวา, หน้าอก, หลัง รวม 6 จุด ส่วนเรื่องของกระสุนนั้นจะสามารถครอบครองได้เท่าไรนั้น กฎหมายไม่ได้ระบุจำนวนว่าสามารถครอบครองได้มากน่อยแค่ไหน แต่เครื่องกระสุนจะต้องตรงกับชนิดและขนาดของอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้” พล.ต.ต.อรรถพล กล่าว

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ จนกว่าผู้ก่อเหตุจะต่อสู้คดี โดยผ่านการยืนยันจากแพทย์โดยให้ตรวจสอบก่อน หากมีอาการทางจิตให้รักษาตัวก่อน ขณะที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน

เบื้องต้นตั้งประเด็นในการสอบสวน ก่อนสอบปากคำผู้ก่อเหตุคือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่, ทำให้เสียทรัพย์, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน