เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ร.ต.อ.สันติ ปักการะโถ ร้อยเวร สภ.ปากน้ำประแสร์ ระยอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถพ่วงบรรทุกไม้ยางพารามาเต็มคันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ2ราย เหตุเกิดบริเวณ จุดกลับรถหน้าโรงงานน้ำยาง ริมถ.สุขุมวิท (ขาเข้า จ.จันทบุรี) ม.7 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.แกลง และ หน่วยกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์ เดินทางไปตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงหัวโค้ง พบรถพ่วงสีขาว ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียนหัวรถ 80-5495 ตราด ทะเบียนตัวพ่วง 80-7148 ตราด บรรทุกไม้ยางพารามาเต็มคัน จอดอยู่กลางถนน และต้องผงะกับสภาพรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า CRV สีเทา ทะเบียน ฆร-3812 กรุงเทพมหานคร ตัวรถชนอัดติดเข้าไปใต้ท้องรถช่วงตัวพ่วง ความแรงที่พุ่งชน ทำให้ตัวรถแทบมองไม่ออกว่าเป็นรถชนิดใด เพราะถูกแรงชนจนบี้แบนอยู่ใต้ท้องรถ บริเวณเบาะคนขับและเบาะด้านข้างพบกับสภาพศพชายหญิงกะโหลกเปิด สมองกระจายเกลื่อน ร่างของทั้งสองแหลกเหลวจมกองเลือด ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เป็นที่สยดสยองแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่าง และตัวยก เพื่องัดเอาร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองออกมา ใช้วลาประมาณ 1 ชม. จึงนำร่างของทั้งสองออกมาได้ เป็นผู้ชาย 1 คน ซึ่งเป็นคนขับ และ ผู้หญิง 1 คน นั่งที่เบาะด้านข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพส่งพิสูจน์ ที่ รพ.แกลง ต่อไป

จากการตรวจสอบพบหลักฐานในตัวผู้เสียชีวิตที่เป็นคนขับ เป็นบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ จ.ต.กิตติพงศ์ ชูฤทธิ์ อายุ 56 ปี อยู่ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นทหารเรือ ยังไม่ทราบสังกัด ส่วน ผู้หญิงที่เสียชีวิต ยังไม่ทราบชื่อ คาดคงเป็นแฟนของคนขับ ซึ่งยังไม่พบหลักฐาน คาดตกอยู่ภายในรถ ซึ่งต้องรอให้นำรถออกมาก่อนจะได้ตรวจสอบหลักฐานภายในรถต่อไป

ส่วนคนขับรถพ่วง ทราบชื่อ นายบุญชื้น ศิริวงขันธ์ อายุ 51 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ตราด มีอาการตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมีอาการช็อก จนทางหน่วยกู้ภัยต้องช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนมีอาการดีขึ้นได้ให้การว่า ตนเอง ได้ขับรถบรรทุกไม้ยางพารามาเต็มคัน และกำลังกลับรถเพื่อเข้าไปส่งที่โรงงาน ซึ่งก่อนกลับรถได้รอจังหวะจนแน่ใจว่าปลอดภัยถนนว่างแล้ว จึงเลี้ยวกลับรถทันที แต่ปรากฏว่าขณะที่กลับรถผ่านไปครึ่งคัน จู่ๆเห็นแสงไฟรถพุ่งมาด้วยความเร็ว และชนจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถพ่วงน้ำหนักกว่าสิบตันไถลไปกับแรงชนกว่าสิบเมตร

ตนเองถึงกับช็อก ไม่คิดว่าจะมีรถมาชน เพราะมองดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีรถ แต่รถคันดังกล่าวไม่ทราบว่าวิ่งมาตอนไหน ชนเข้าอย่างแรงจนทำให้ตัวเองกระเด็นไปชนกับพวงมาลัยจนได้รับบาดเจ็บ พอตั้งสติได้จึงเปิดไฟกระพริบขอทางไว้ และลงจากรถมาดูรถคันที่พุ่งชน เมื่อเห็นสภาพรถและร่างของทั้งสองคนจมกองเลือดอยู่ แทบช็อกจึงรีบเดินออกมา ไม่กล้ามอง และรีบโทรแจ้งตำรวจทันที ซึ่งรู้สึกเสียใจกับการสูญเสีย ซึ่งตนเองมั่นใจว่าถนนว่างปลอดภัยแล้วจึงกลับรถแต่เป็นรถพ่วงจึงต้องตีวงกว้างก่อนเลี้ยว และต้องใช้เวลาจึงจอดดูจนแน่ใจแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุสลดขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานรถยกเพื่อนำรถที่เกิดเหตุทั้งสองคันออกจากถนนให้เร็วที่สุด เพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้น เตรียมประสานญาติของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายให้ทราบต่อไป ซึ่งเบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นทหารเรือ ยศจ่าตรีตามที่ระบุไว้ที่บัตรประชาชนคงจะเป็นอดีตทหาร ที่กำลังกลับบ้านพักที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ต่อมาทางตำรวจจึงควบคุมตัวคนขับรถพ่วงซึ่งอาการดีขึ้นหลังตั้งสติได้แล้ว ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน