ตร.กองปราบ แจ้งข้อหา ‘แอม’ เพิ่มเป็น “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์” โจ๋แฉถูกจ้าง 500 ให้เอาไซยาไนด์ไปฝัง อยากรู้เปิดดมสลบไป 3 วัน

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนเชิญตัวน.ส.นิภาวรรณ หรือส้ม พี่สาวของน.ส.ก้อย หนึ่งในเหยื่อของผู้ต้องหา ทราบว่า พยานรายนี้อยู่ร่วมทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ และมีโอกาสพูดคุยกับผู้ต้องหาหลังจากเกิดเหตุแล้วด้วย นอกจากนี้ ยังเชิญตัวสามีของเหยื่ออีกรายจาก จ.มุกดาหาร ซึ่งผู้ต้องหาส่งยาแคปซูลไปให้ อ้างว่าเป็นยาบำรุง แต่หลังจากกินเข้าไปแล้วก็ทำให้เสียชีวิต

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า กรณีที่พี่สาวของผู้ต้องหาที่เป็นเภสัชกรจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารไซยาไนด์ ที่ผู้ต้องหานำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นพอจะทราบว่าผู้ต้องหานั้นสั่งซื้อมาจากช่องทางอื่น เพราะปกติสารไซยาไนด์เป็นสารควบคุม ที่นำมาใช้สำหรับงานอุตสหกรรมต่างๆ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ข้อสงสัยที่ว่าจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาเรื่องวิธีการใช้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอสอบสวนอีกครั้ง แต่ขณะนี้ยังไม่พบมีผู้อื่นร่วมก่อเหตุด้วย เพราะตามแผนประทุษกรรม พบว่าผู้ต้องหาอาศัยความใกล้ชิดส่วนตัว ก่อนจะลวงมาก่อเหตุ เรื่องนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่สาวของผู้ต้องหาด้วย

พ.ต.อ.เอนก กล่าวถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่โหดเหี้ยมลงมือฆ่าผู้อื่นนับ 10 ราย จะมีความผิดปกติทางสภาพจิตหรือไม่ จากการสอบปากคำไม่พบว่า ผู้ต้องหามีอาการผิดปกติแต่อย่างใด พูดจาเหมือนคนปกติทั่วไป ทั้งนี้ต้องรอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

“การตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ก็ยังพบว่ามีธุรกิจการรับจำนำรถยนต์ด้วย หลังจากนี้ก็น่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่านี้” รอง ผบก.ป.กล่าว

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า มอบหมายให้พนักงานสอบอีกชุดหนึ่งลงพื้นที่สอบปากคำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารพิษและสารเคมี เพื่อสักถามรายละเอียดเกี่ยวกับความอันตรายของสารไซยาไนด์

โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับจำนวนปริมาณของสารไซยาไนด์ ที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายกับร่างกายจนถึงชีวิต เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีควบคู่พยานหลักฐานผลตรวจสารพิษที่พบในร่างกายของผู้ตาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้สำนวนคดีมีความแน่นหนาสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดได้

“มั่นใจว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนามากพอที่จะเอาผิด นางสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาได้ และ ขณะนี้เองทางพนักงานสอบสวนก็เตรียมที่จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในลักษณะของ อนุข้อกล่าวหา จากเดิมที่เป็น ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง” เพิ่มเป็น “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์” ซึ่งข้อหาทั้งหมดที่ว่านี้ล้วนมีโทษหนักถึงประหารชีวิต” รอง ผบก.ป. กล่าว

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับของกลางขวดสารไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุ จากสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ทราบว่าช่วงก่อนสงกรานต์ ผู้ต้องหานำกล่องพัสดุ นำจ่ายในชื่อของตัวเองที่หน้ากล่องมาให้ และว่าจ้างให้นำไปฝังดิน ให้ค่าจ้าง 500 บาท ด้วยความสงสัยหนึ่งพยานจึงเปิดกล่องแล้วดมสารดังกล่าว ก็มีอาการวิงเวียนศีรษะมึนงงไปถึง 3 วัน

ส่วนเรื่องที่กลุ่มวัยรุ่นไม่ได้นำหลักฐานไปฝัง ก็เพราะมัวแต่เล่นสงกรานต์จนลืม เมื่อผู้ต้องหารู้ว่ายังไม่ได้นำไปฝัง จึงรีบขับรถมาหา แต่ก็ไม่ทัน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมายึดไปแล้ว นางเเอมก็รีบเค้นหากล่องพัสดุที่ระบุชื่อของตนเอง ก่อนจะรีบนำไปทำลาย ซึ่งกรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน ติดต่อขอหลักฐานไปยังบริษัทขนส่งดังกล่าวแล้วว่ามีการส่งพัสดุให้ผู้ต้องหาหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน