‘รพี’ เตรียมเปิดหลักฐานใหม่คดี ‘แอม’ หลังพบบัญชีผู้ตายเคลื่อนไหวหลายแสนบาท พร้อมลั่นไม่รับ 50,000 บาทจาก ‘อัจฉริยะ’ หวั่นผิดอุดมการณ์

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 พ.ค.66 ที่สโมสรตำรวจ นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานญาติผู้เสียชีวิตในคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี เดินทางเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม กับคณะทำงานชุดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ในฐานะผู้ดูแลคดี สะเทือนขวัญ กรณีร่างของน.ส.ศิริพร ที่ยังเก็บรักษาไว้อยู่ ว่าสามารถนำไปประกอบพิธีการทางศาสนาได้หรือไม่ หากมีผลออกมาเช่นไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบอีกครั้ง

นายรพี กล่าวว่า วันนี้จะเดินทางไปยังจ.กาญจนบุรี เพื่อไปรับหลักฐานสำคัญ ซึ่งเป็นหลักฐานด้านการเงินของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ที่เชื่อมโยงกับนางแอม เบื้องต้นพบว่าเจ้าของบัญชีดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว แต่บัญชียังมีความเคลื่อนไหว วงเงินหลายแสนบาท ทั้งยังพบบุคคลที่ทำธุรกรรมไม่ใช่ญาติพี่น้อง เพื่อจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป

ส่วนคดีของน.ส.ทราย เหยื่อรายที่ 15 หลังตำรวจรับเรื่องร้องทุกข์ ที่แม่เข้าพบพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจวันนี้ อยากให้ไปติดตามหาหลานสาวของน.ส.ทราย หลังทราบว่า มีเอกสารบางอย่างที่นางแอมลงลายมือไว้ว่าเป็นผู้จัดการมรดก แล้วมีข้อมูลว่าเคยยื่นเอกสารชิ้นนี้ให้กับสามีชาวต่างชาติของน.ส.ทราย ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อข้อมูลและพยานหลักฐาน ในข้อเท็จจริงของคดีนี้

ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมามอบกระเช้าและเงินสดจำนวน 50,000 บาทให้กับ นายรพี โดยระบุว่า มอบให้เป็นค่าใช้จ่ายเดินทาง เชื่อว่าต้องเดินทางไปอีกหลายที่ และกระเช้ามอบให้เพื่อบำรุงร่างกายในการต่อสู้คดี

ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่รวบรวมจากแฟนคลับในชมรมและเงินส่วนตัวของตนเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้บุคคลตัวอย่างที่เก่ง กล้า ไม่เพิกเฉย ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีนายรพี ก็ไม่รู้ว่านางแอมจะไปฆ่าคนอีกจำนวนเท่าไร

ด้านนายรพี ปฏิเสธไม่ขอรับเงิน เนื่องจากกังวลว่าจะผิดต่ออุดมการณ์ ที่เคยประกาศตัวว่าจะอุทิศตัวช่วยเหลือสังคมที่ไม่ได้รับความถูกต้อง การช่วยเหลือสังคมในวันนี้ตนเองไม่ใช่ฮีโร่ แต่อยากทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน