แอนนา แจงธุรกิจสะดุด เหตุพนักงานรถล้มทำทอง 4 ล้านที่แจกลูกค้าหาย ตอนนี้เหลือเงินแค่ 25 บาท ยืนยันไม่ได้ทำกล่องสุ่มทองคำ

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 16 มิ.ย.66 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ แอนนา วรินทร หรือแอนนา อินฟูลเอ็นเซอร์ชื่อดัง พร้อม พุดเดิ้ล ยุพดี เพื่อนสนิท เข้าพบพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีจากการทำธุรกิจ

ภายหลังให้ปากคำร่วม 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า วันนี้ตำรวจออกหมายเรียกแอนนา มารับทราบข้อกล่าวหาได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากการสอบปากคำทราบว่าเป็นคดีความเกี่ยวกับอาหารเสริมความงามและธุรกิจที่แอนนาทำอยู่ เฉพาะบก.สอท.1 มีทั้งหมด 9 คดี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 8 ล้านบาท แต่ยังมีคดีความอีกหลายท้องที่ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาท ส่วนประเด็นเรื่องทองที่ปรากฏนั้น เจ้าตัวชี้แจงว่าทองดังกล่าวเป็นของสัมมนาคุณที่แจกให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้า โดยแอนนามีหลักฐานการซื้อทองวันละหลายล้านบาท และเคยแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว เมื่อปี 2565 เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทอง

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า ปกติการแจกของในลักษณะนี้จะไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้ขออนุญาตกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรณีแอนนาขออนุญาตไว้ในปี 2566 แต่ต้องตรวจสอบย้อนหลังไปในปี 2565 ด้วยว่าได้ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ พร้อมตรวจสอบคดีความในท้องที่อื่นเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้แอนนาเองก็มีความเครียด แต่ได้เดินทางมาเข้าพบกับตำรวจเอง พร้อมฝากประชาชนก่อนว่าในการจะแจกสิ่งของควรจะตรวจสอบข้อกฎหมายให้รอบคอบมิฉะนั้นก็อาจเข้าข่ายความผิดเรื่องแชร์ลูกโซ่ได้

ต่อมาเวลา 14.55 น. แอนนา ยืนยันไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเรื่องเกิดจากการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด เพราะไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดี อีกทั้งตนชอบแจก ใจใหญ่ในการทำธุรกิจ กรณีนี้เริ่มจากการส่งของล่าช้า ตนก็ไม่มีเจตนาไม่ส่งของ ส่วนเรื่องกล่องสุ่มทิพย์ ยืนยันว่าตนทำจริง แต่เป็นสกินแคร์และอาหารเสริมที่ระบุรายละเอียดชัดเจน

แอนนา ชี้แจงถึงประเด็นเรื่องกล่องสุ่มทองคำว่า ตนไม่ได้ทำ เพราะจะให้ทองเป็นของแจก คืนกำไรสำหรับลูกค้าประจำเท่านั้น โดยมีเอกสารการซื้อครบ และลูกค้าได้รับมาตลอด รวมถึงยังระบุชัดเจนว่าตนจะขายทองให้กับลูกค้าประจำที่ซื้อสินค้าตามยอดที่กำหนดเท่านั้น ส่วนคดีความที่เกิดขึ้น เคยแจ้งความไว้ที่สน.คันนายาว หลังวันที่ 24 ก.ย.2565 พนักงานส่งของที่คอยรับส่งของกับตนเป็นประจำ เข้ามารับทองมูลค่า 4 ล้านบาทในช่วงดึกเพื่อนำไปส่ง แต่เขาอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มระหว่างทางและของหายทั้งหมด โดยที่พนักงานรายนี้ไม่เคยทราบว่าของที่ไปส่งคืออะไร และตนยังมีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดบางช่วงขณะแพ็กทอง เพื่อส่งและมอบให้ตำรวจไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานขนส่ง เพราะไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งตำรวจยังคงสืบสวนคดีนี้อยู่ ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะให้ความไว้ใจกับพนักงานรายนี้มาเป็นปี แต่สุดท้ายแม่ตนบอกว่าเป็นเวรกรรม และเวรกรรมมาตกที่ตัวเอง เพราะตอนนี้ยังหาทองไม่พบจริงๆ ยอมรับว่าพลาดเองที่ไม่แจ้งลูกค้า เพราะเกรงจะส่งผลต่อการทำธุรกิจ ทั้งนี้ตนจะเร่งขายสินค้าเพื่อนำเงินไปซื้อทองมาคืนลูกค้าที่ดำเนินคดีไว้

“ยอมรับตัวเองเคยคิดสั้น หนูพยายามเข้มแข็งในทุกวัน คิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วเราต้องอยู่ ไม่งั้นลูกค้าจะได้ของยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่สบายใจ หนูไม่ได้กลัวคุก เพราะคุกก็คือคุก แต่คืนของให้ลูกค้าคือจุดประสงค์หลัก แต่บัญชีตอนนี้หนูมีเงินแค่ 25 บาทเท่านั้น เพราะไม่เคยวางแผนว่าธุรกิจจะล้ม” แอนนากล่าว








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน