บุกรวบ สาววัย19 บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้นเหตุโศกนาฏกรรม คดีพ่อฆ่า3ศพ พบกดเงิน 17 ครั้ง กว่า 900,000 บาท กลับไปให้หัวหน้า
วันที่ 30 ส.ค.2566 ความคืบหน้ากรณีพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา คดีที่ นายสาณิช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ก่อเหตุฆ่า น.ส.วิภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ภรรยา พร้อมลูกชายอายุ 11 ปี และ 13 ปี รวม 3 ศพ ก่อนปาดคอตนเองหวังจบปัญหาแต่สุดท้ายไม่ตาย เนื่องเจอทางตันหนี้สินจากการค้ำประกันเงินกู้ แถมเคราะห์ซ้ำถูกแอพเงินกู้หลอกโอนเงินสูญกว่าล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
รวบ สาววัย19 บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้นเหตุโศกนาฏกรรม คดีพ่อฆ่า3ศพ พบกดเงิน 17 ครั้ง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันจับกุม น.ส.สุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหา เจ้าของบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้นเหตุโศกนาฏกรรมฆ่ายกครัว 3 ศพ ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 620/2566 ลงวันที่ 28 ส.ค.2566
ข้อหา กระทำความผิดฐาน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลซึ่งใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์
โดยจับกุมได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าราชอาณาจักร ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะที่ น.ส.สุชาดา เดินทางข้ามมาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อกลับเข้าประเทศไทย ซึ่ง น.ส.สุชาดา รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปลงบันทึกประจำวัน พร้อมแจ้งการจับกุมไปยังพนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย
จากนั้น ได้ควบคุมตัวไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อรอส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามหมายจับ พร้อมทั้งเตรียมสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมแก๊งและผู้ร่วมขบวนการ ส่วนตัวผู้บงการแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้มีฐานที่ตั้งอยู่ในฝั่งกัมพูชา ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัวมาสอบและขยายผล
Advertisement
เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.เอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้างานกำกับดูแลด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดี ที่บก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมแถลงความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้ตำรวจทราบฐานที่ตั้งของคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้แล้ว ซึ่งในประเทศกัมพูชา ตำรวจมีการออกหมายจับกุมผู้เกี่ยวข้อง 11 ราย มีทั้งชาวจีน ไทย และ กัมพูชา
ล่าสุดจับได้แล้ว 3 ราย โดยจับได้ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจค้นที่พัก เพื่อหาหลักฐาน โดย 1 ในจำนวนนี้ เป็นหญิงไทยวัย 19 ปี เจ้าของบัญชีม้าต้นเรื่อง ซึ่งเป็นผู้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.สระแก้ว กดเงินไปรวมแล้ว 17 ครั้ง กว่า 900,000 บาท โดยกดเป็นเงินสดจากฝั่งไทย ก่อนนำข้ามฝั่งกลับไปให้หัวหน้าแก๊งที่กัมพูชา
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา เพื่อนำหมายศาลไปจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหลือด้วยตนเองภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งขยายผลว่า ก่อนหน้าเหตุการณ์สลดใจนี้เคยหลอกมาแล้วกี่ราย มีมูลค่าความเสียหายเท่าใด
ส่วนแอปฯเงินกู้ออนไลน์ ที่ผู้เสียชีวิตเข้าไปโหลดเพื่อหวังกู้เงิน รอง ผบ.ตร. ระบุว่า เป็นแอปฯที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมขึ้น เพื่อใช้ประกอบในการออกอุบายหลอกเหยื่อ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปกู้เงินนอกระบบมานั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่เงินกู้นอกระบบ แต่เป็นเงินที่เพื่อนหลายคน ซึ่งรู้จักกันมานานให้ยืม โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ด้านคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สั่งตำรวจภูธรบางแก้ว ให้จัดกำลังไปเฝ้าสังเกตอาการของผู้ก่อเหตุ หลังล่าสุดมีการย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แล้ว
