เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ศาลาว่าการ กทม. นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจัดตั้งตลาด เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญเจ้าของตลาดทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ตลาดสวนหลวง ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตประเวศ นำเอกสารมาตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งชี้แจงถึงความมาเป็นของแต่ละตลาดว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารตั้งแต่เมื่อใดและมีการขออนุญาตจัดตั้งตลาดหรือไม่และเมื่อใด ซึ่งข้อเท็จจริงจะระบุอยู่ในเอกสารอยู่แล้ว ดังนั้นที่ประชุมมีมติขอขยายเวลา เพื่อตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด โดยตนในฐานะที่ผู้ว่าฯกทม. แต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ จะทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม. เพื่อขอขยายเวลา โดยคาดว่าจะสามารถตรวจสอบเอกสารแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 5 มี.ค.นี้
นายนิรันดร์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบเอกสารของ 5 ตลาดดังกล่าว มีจำนวน 3 ตลาดได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตาม พ.ร.บควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กับสำนักการโยธา ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจการอนุมัติก่อสร้างในขณะนั้น โดย สำนักการโยธา ได้พิจารณาออกใบอนุญาตใช้อาคารตามกฎหมายผังเมือง ส่วนการขออนุญาตจัดตั้งตลาด ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเขตประเวศ ซึ่งกรณีที่ให้มีการเปิดตลาดโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดนั้น ฝ่ายบริหาร จะต้องตรวจสอบเจ้าหน้าที่ผู้ปล่อยปละละเลยว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง ขณะเดียวกันจะพิจารณาว่ามีความผิดทางวินัยแค่ไหนอย่างไรเอง เพราะ คณะกรรมการฯ มีหน้าที่รวบรวมเอกสารข้อมูล ข้างต้นทั้งหมด แต่ไม่รวมถึงการระบุรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ซึ่งในวันที่ 5 มี.ค.นี้ จะเสนอเอกสาร ซึ่งเป็นรายละเอียดผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในภาพรวมทั้งหมด ทั้งการระบุความเป็นมาของตลาด และช่วงระยะเวลาที่มีการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งในเอกสารจะปรากฎชัดเจนถึงความผิดของผู้ที่เกี่ยวข้องที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งในช่วงเวลาขณะนั้น ให้กับผู้ว่าฯ กทม.พิจารณาโทษ และหากพบว่าความผิดปรากฎชัดเจน ฝ่ายบริหารจะต้องตั้งกรรมการสอบวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
ด้านนาง สิรัญญา สวงนนามสกุล เจ้าของตลาดสวนหลวง กล่าวว่า ยอมรับว่าขาดความรู้เรื่องข้อกฎหมาย ทำให้ไม่รู้ว่าการจัดตั้งตลาด มีขั้นตอนและกระบวนการอย่างไร ที่ผ่านมาได้พยายามขอยื่นให้ถูกต้อง แต่ไม่ได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่องและมีการเปิดกิจการตลาดเรื่อยมา จนกระทั่งมีข้อพิพาทดังกล่าวขึ้น เมื่อรู้ว่ากิจการที่ดำเนินการอยู่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ตนยอมรับและจะพยายามดำเนินการปรับปรุงส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการกิจการเปิดตลาดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างครบถ้วน ซึ่งจากนี้จะมีการปรับปรุงอาคารและส่วนอื่นๆ ตามหลักสุขาภิบาลและไปเป็นตามกฎหมายด้านตลาดกำหนดไว้ เพื่อยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดกับสำนักงานเขตประเวศอีกครั้ง โดยตลาดสวนหลวง หวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดกิจการตลาดได้ เพื่อให้ผู้ค้าทุกคนกลับมามีที่ทำกิน เพราะถือว่าตลาดเป็นปากท้องของทุกคน และหากศาลมีคำตัดสินอย่างไรก็น้อมรับ ซึ่งตลาดอื่นๆในพื้นที่ดังกล่าวจะเร่งปรับปรุงในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้สามารถเปิดกิจการตลาดที่ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกันได้ต่อไป
