ที่ประชุมครม.เศรษฐา ไฟเขียวลด ‘ดีเซล’ เริ่ม 20 ก.ย. แถมมีมติ “ฟรีวีซ่า” เพื่อกระตุ้นมาตรการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น

เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 13 ก.ย.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง แถลงผลการประชุมครม.ว่า วันนี้เพิ่งจบการประชุมครม.นัดแรก ซึ่งปกติโฆษกรัฐบาลจะเป็นผู้แถลง แต่วันนี้เข้าใจว่าสื่อมวลชนอยากได้ยินอะไรที่ดีๆ ที่ครม.นัดแรกทำออกมาตนก็จะแถลงโดยสังเขป โดยโฆษกรัฐบาลจะเป็นผู้แถลงในรายละเอียดในเรื่องทั้งหลายที่มีการพูดคุยกันในที่ประชุม ครม.

นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการสรุปวาระ ครม.หลายเรื่องโดยเรื่องแรกที่มีการพูดคุยกันคือ การจัดตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีหน้าเพื่อให้สมพระเกียรติ และขอให้ประชาชนมีส่วนร่วม

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่ทุกคนอยากให้มี อยากให้เกิดขึ้น เราจึงมีการสั่งการไปเลยเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญปี 2560 เห็นชอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะรองนายกฯคนที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ยึดเอาแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ โดยใช้เวทีรัฐสภาในการหารือรูปแบบแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่ 3 เรื่องฟรีวีซ่าชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีการสับสน ฟรีวีซ่าหมายความว่ายกเลิกการขอเดินทางเข้ามาประเทศไทยของประเทศจีนและประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้ทำอย่างเป็นทางการ โดยแฝงประเทศคาซัคสถานมาด้วย เพราะเป็นชาติที่อยู่ในเขตยุโรปซึ่งมีภาวะฤดูหนาวที่รุนแรง และดูจากสถิติถือเป็นประเทศที่อยากเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ กราฟอยู่ในแนวขึ้นตลอด โดยทั้ง 2 ประเทศนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 29 ก.พ.2567 เป็นการยกเว้นชั่วคราว เพื่อดูผลกระทบทั้งหลาย ยืนยันว่าเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ได้คุยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ว่าจะฝ่ายความมั่นคง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจทุกภาคส่วนพร้อมรองรับ

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องที่ 4 มีการตั้งคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่เราหาเสียงไป เป็นการดึงศักยภาพของประชาชนชาวไทยทุกคนออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชนชาวไทยทุกคน ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกรได้มีการตกลงกัน ซึ่งจะมีการพักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลา 3 ปี

“เรื่องที่ 7 เป็นเรื่องที่เราไม่เคยพูดคุยกัน ผมไม่ได้มีการแย้มถึงเรื่องนี้เลย แต่ผมตระหนักดีว่าเรื่องกระแสเงินสดของทุกคนในกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงดำริให้เปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการจากเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ โดยรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งต้องมีการแก้ไขระบบอะไรหลายๆ อย่าง จึงทำเลยไม่ได้ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อยได้เยอะพอสมควรถ้ามีการจ่ายเงิน 2 รอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไม่ต้องคอยให้ถึงสิ้นเดือนก็จะมีเงินแบ่งจ่ายออกมา”นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องค่าไฟเป็นอีกเรื่องที่ได้มีการพูดคุยกัน ลดค่าไฟฟ้าเป็น 4.10 บาท ต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จาก 4.45 บาท ซึ่งเชื่อว่าเยอะกว่าที่ประชาชนคาดไว้ โดยจะเริ่มในรอบบิลเดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนการลดราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสูงสำหรับค่าขนส่งให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เข้าใจว่าจะเริ่มต้นได้วันที่ 20 ก.ย.นี้ โดยทั้งหมดนี้เป็นคร่าวๆที่ตนคลิกมาว่าเป็นไฮไลท์สำหรับการประชุมครม.นัดนี้ อย่างไรก็ตามคณะโฆษกฯจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของน้ำมันเบนซินจะมีการพิจารณาหลังจากนี้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องเบนซินก็มีการพูดคุยกันแต่ต้องดูให้ดีถึงกลุ่มผู้เดือดร้อนจริงๆ เดี๋ยวคงจะมีมาตรการค่อยๆทยอยออกมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน